การจดทะเบียนสมาคม
การจดทะเบียนสมาคม
ให้ผู้จะเป็นสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน ยื่นคำขอตามแบบ ส.ค.1 ณ สำนักงานเขต สำหรับในกรุงเทพมหานคร หรือที่ว่าการอำเภอ/กิ่งอำเภอ สำหรับในจังหวัดอื่นที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมจะตั้งขึ้น
หลักฐานที่ต้องใช้ จำนวน 3 ชุด
8. สำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตจัดตั้งสมาคมหรือองค์กรตามกฎหมายว่าด้วยวัฒนธรรมแห่งชาติ ในกรณีสมาคมมีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับงานของสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ
การจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม
1. กรณีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม ให้สมาคมยื่นคำขอตามแบบ ส.ค.2 ณ สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ/กิ่งอำเภอ ที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมฯ ได้ลงมติ
หลักฐานที่ต้องใช้ จำนวน 3 ชุด
หลักฐานที่ต้องใช้ จำนวน 3 ชุด
6. สำเนาใบสำคัญ ส.ค.6 (กรณีสมาคมได้รับการจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ทั้งชุด หรือเปลี่ยนแปลงกรรมการสมาคมแล้ว)
การขอจดทะเบียนเลิกสมาคม
ผู้ประสงค์จะจดทะเบียนเลิกสมาคมให้ยื่นหนังสือเลิกสมาคม ตามแบบแจ้งการเลิกสมาคม พร้อมหลักฐานดังต่อไปนี้
อัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมอื่นของสมาคม
1. ค่าจดทะเบียนสมาคม 2,000.- บาท
2. ค่าจดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม หรือค่าจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุด หรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม ครั้งละ 200.- บาท
3. ค่าตรวจเอกสาร ครั้งละ 50.- บาท
4. ค่าคัดสำเนาเอกสาร พร้อมด้วยคำรับรองว่าถูกต้อง แผ่นละ 10.- บาท แต่ไม่เกิน 500.- บาท
5. ค่าคำขอให้นายทะเบียนดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับสมาคม ครั้งละ 5.- บาท
แบบฟอร์มสำหรับติดต่อ
1. คำขอจดทะเบียนสมาคม (ส.ค.1)
2. คำขอจดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม (ส.ค.2)
3. คำขอจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม (ส.ค.3)
4. แบบแจ้งการเลิกสมาคม
หลักฐานที่ต้องใช้ จำนวน 3 ชุด
1. ข้อบังคับของสมาคม
2. รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่าสิบคน
3. รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นกรรมการของสมาคมทุกคน
4. รายงานการประชุมก่อตั้งสมาคม
5. แผนผังที่ตั้งสังเขปของสมาคมทั้งสำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขา (ถ้ามี)
6. หนังสืออนุญาตให้ใช้สถานที่ของสมาคม
7. สำเนาหรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ และภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านของผู้จะเป็นกรรมการของสมาคมทุกคน2. รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่าสิบคน
3. รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นกรรมการของสมาคมทุกคน
4. รายงานการประชุมก่อตั้งสมาคม
5. แผนผังที่ตั้งสังเขปของสมาคมทั้งสำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขา (ถ้ามี)
6. หนังสืออนุญาตให้ใช้สถานที่ของสมาคม
8. สำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตจัดตั้งสมาคมหรือองค์กรตามกฎหมายว่าด้วยวัฒนธรรมแห่งชาติ ในกรณีสมาคมมีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับงานของสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ
9. เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี)
การจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม
1. กรณีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม ให้สมาคมยื่นคำขอตามแบบ ส.ค.2 ณ สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ/กิ่งอำเภอ ที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ที่ประชุมฯ ได้ลงมติ
หลักฐานที่ต้องใช้ จำนวน 3 ชุด
1. รายงานการประชุมของที่ประชุมใหญ่ที่มีมติให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม
2. ข้อบังคับของสมาคมฉบับเก่าและข้อบังคับของสมาคมฉบับใหม่
3. ตารางเปรียบเทียบข้อบังคับของสมาคมฉบับเก่าและข้อบังคับของสมาคมฉบับใหม่
4. แผนผังที่ตั้งสังเขปของสมาคมและหนังสืออนุญาตให้ใช้สถานที่ตั้งของสมาคมในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้ง
5. สำเนาใบสำคัญ ส.ค.4 (กรณีสมาคมที่ได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ซึ่งยังไม่เคยแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการมาก่อน) หรือ
2. ข้อบังคับของสมาคมฉบับเก่าและข้อบังคับของสมาคมฉบับใหม่
3. ตารางเปรียบเทียบข้อบังคับของสมาคมฉบับเก่าและข้อบังคับของสมาคมฉบับใหม่
4. แผนผังที่ตั้งสังเขปของสมาคมและหนังสืออนุญาตให้ใช้สถานที่ตั้งของสมาคมในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ตั้ง
6. สำเนาใบสำคัญ ส.ค.6 (กรณีสมาคมได้รับการจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการสมาคมแล้ว)
2. กรณีการแต่งตั้งกรรมการสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม ให้สมาคมยื่นคำขอตามแบบ ส.ค.3 ณ สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ/กิ่งอำเภอ ที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีการแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคมหลักฐานที่ต้องใช้ จำนวน 3 ชุด
1. รายงานการประชุมของสมาคมที่มีมติให้มีการแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ทั้งชุด หรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม
2. ข้อบังคับของสมาคม
3. รายชื่อกรรมการเก่าและกรรมการใหม่
4. สำเนาหรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ และภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการใหม่
5. สำเนาใบสำคัญ ส.ค.4 (กรณีสมาคมที่ได้รับการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ซึ่งยังไม่เคยแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการมาก่อน) หรือ2. ข้อบังคับของสมาคม
3. รายชื่อกรรมการเก่าและกรรมการใหม่
4. สำเนาหรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ และภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการใหม่
6. สำเนาใบสำคัญ ส.ค.6 (กรณีสมาคมได้รับการจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่ทั้งชุด หรือเปลี่ยนแปลงกรรมการสมาคมแล้ว)
การขอจดทะเบียนเลิกสมาคม
ผู้ประสงค์จะจดทะเบียนเลิกสมาคมให้ยื่นหนังสือเลิกสมาคม ตามแบบแจ้งการเลิกสมาคม พร้อมหลักฐานดังต่อไปนี้
1. ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนสมาคม
2. ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม ซึ่งเป็นกรรมการที่อยู่ในตำแหน่งขณะมีการเลิกสมาคม
3. ข้อบังคับของสมาคม
4. เอกสารแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี
5. สำเนารายงานการประชุมของสมาคมที่มีมติให้เลิกสมาคม
6. เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี)
4. เอกสารแต่งตั้งผู้ชำระบัญชี
5. สำเนารายงานการประชุมของสมาคมที่มีมติให้เลิกสมาคม
6. เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี)
อัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและค่าธรรมเนียมอื่นของสมาคม
1. ค่าจดทะเบียนสมาคม 2,000.- บาท
2. ค่าจดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม หรือค่าจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุด หรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม ครั้งละ 200.- บาท
3. ค่าตรวจเอกสาร ครั้งละ 50.- บาท
4. ค่าคัดสำเนาเอกสาร พร้อมด้วยคำรับรองว่าถูกต้อง แผ่นละ 10.- บาท แต่ไม่เกิน 500.- บาท
5. ค่าคำขอให้นายทะเบียนดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับสมาคม ครั้งละ 5.- บาท
แบบฟอร์มสำหรับติดต่อ
1. คำขอจดทะเบียนสมาคม (ส.ค.1)
2. คำขอจดทะเบียนการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคม (ส.ค.2)
3. คำขอจดทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม (ส.ค.3)
4. แบบแจ้งการเลิกสมาคม