ฝ่ายการคลัง
ฝ่ายการคลัง
การให้บริการตามอำนาจหน้าที่
ฝ่ายการคลัง มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับงานงบประมาณ การเงิน การบัญชี และการพัสดุ ที่เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณกรุงเทพมหานคร เงินอุดหนุนรัฐบาล เงินนอกงบประมาณและเงินอื่นใด (ได้แก่ การรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การนำส่งเงินต่อคลังกรุงเทพมหานคร การเก็บรักษาเงิน การจัดทำสรรพบัญชีและทะเบียนต่างๆ การตรวจสอบหลักฐานการจ่าย การจัดทำงบเดือนแสดงรายการจ่ายเงินของหน่วยงาน การจัดทำรายงานทางการเงินตามระยะเวลาที่กำหนด การวิเคราะห์รายงานทางการเงินเพื่อการบริหาร การตรวจสอบรายงานทางการเงินของหน่วยงาน การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี การควบคุมการจัดทำแผนการใช้จ่ายเงินเพื่อการบริหาร การบริหารงบประมาณ การติดตามผลการดำเนินงานด้านงบประมาณ การจัดหาและควบคุมพัสดุ การควบคุมทรัพย์สิน การบริหารการเงินการคลังภาครัฐสู่ระบบอิเลคทรอนิกส์)การปฏิบัติงานตามโครงการจัดระบบข้อมูลและข่ายงานระบบคอมพิวเตอร์ของกรุงเทพมหานคร (MIS) จำนวน 9 ระบบงาน (ได้แก่ ระบบงานงบประมาณ ระบบงานการเงิน ระบบงานบัญชี ระบบบัญชีทรัพย์สิน ระบบงานจัดซื้อ ระบบงานจัดจ้าง ระบบงานเงินเดือน ระบบงานบริหารคลังพัสดุกลาง ระบบงานบริหารน้ำมันเชื้อเพลิงและหล่อลื่น) การบริหารข้อมูลและรายงานภาพรวมของงบประมาณ การเงิน การคลัง การพัสดุและทรัพย์สินของหน่วยงาน และหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมาย |
การรับชำระค่าภาษี และค่าธรรมเนียมต่างๆ ค่าภาษี 1. ภาษีโรงเรียนและที่ดิน • รับหนังสือแจ้งการประเมินจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ 2. ภาษีป้าย • รับหนังสือแจ้งการประเมินจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ 3. ภาษีบำรุงท้องที่ เอกสารอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ • ใบเสร็จรับเงินการชำระภาษีครั้งสุดท้ายของทุกรอบระยะเวลาภายใน 4ปี ที่มีการตีราคาปานกลางของที่ดิน หากยังไม่เคยได้รับการประเมินให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ • ใบแจ้งเตือนการชำระเงินที่ส่งไปตามที่อยู่ของผู้เสียภาษี • หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เป็นเจ้าของที่ดิน วิธีการชำระเงิน 1. ยื่นชำระเงินที่ศูนย์ Bangkok Service Center (BSC) ของสำนักงานเขต สามารถชำระได้โดย • เงินสด • เช็คโดย >> จ่าย “กรุงเทพมหานคร” หรือ Bangkok Metropolitan Administration >> ขีดคร่อมเช็ค และขีด “หรือผู้ถือ/ตามคำสั่ง” >> เป็นเช็คหักบัญชีสำนักเดียวกันกับกรุงเทพมหานคร >> ไม่สามารถรับเช็คลงวันที่ล่วงหน้าได้ และเป็นเช็คลงวันที่ที่เจ้าหน้าที่รับชำระเช็คนั้นหรือก่อนวันนั้นไม่เกิน 30 วัน >> จำนวนเงินเช็คต้องไม่เกินจำนวนค่าภาษีที่ต้องชำระ จำนวนเงินตัวเลขและตัวอักษรถูกต้องตรงกัน >> กรณีผ่อนชำระให้นำใบผ่อนชำระเงิน หรือใบเสร็จรับเงินที่ชำระงวดก่อนมาแสดง • การชำระภาษีด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตประเภท Visa และ Master ของสถาบันการเงินทุกแห่งคิดค่าธรรมเนียมอัตราร้อยละ 1 ของยอดชำระเงิน/รายการ • การชำระเงินผ่านบัตร ATM หรือ Visa Debit ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) คิดค่าธรรมเนียม 10 บาท/รายการ • ระบบอิเล็กทรอนิกส์หรืออินเตอร์เน็ต ค่าธรรมเนียมต่างๆ สามารถติดต่อขอรับบริการและชำระเงินได้ที่เคาน์เตอร์บริการของฝ่ายต่างๆ ณ สำนักงานเขต การจ่ายเงินให้แก่เจ้าหนี้ทั่วไป ติดต่อขอรับเงินกับฝ่ายการคลังของสำนักงานเขต ได้ 2 กรณี 1. กรณีผู้มีอำนาจรับเงินมารับด้วยตนเอง ใช้หลักฐานดังต่อไปนี้ • ใบเสร็จรับเงิน,ใบกำกับภาษี (ถ้ามี) • ตรายางประทับของบริษัท ห้างร้าน (ถ้ามี) • บัตรประจำตัวประชาชน 2. กรณีมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาดำเนินการแทน ใช้หลักฐานดังต่อไปนี้ • ใบเสร็จรับเงิน • ตรายางประทับของบริษัท ห้างร้าน (ถ้ามี) • หนังสือมอบอำนาจรับเงิน • สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนของบริษัท ห้างร้าน (ให้ผู้มีอำนาจเซ็นชื่อรับรองสำเนาด้วย) • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ (ไม่หมดอายุก่อนวันมารับเงิน) การติดต่อยื่นวางเงินค่าประกันซองราคา การถอนเงินประกันซองประกวดราคา การรับหลักประกันสัญญา การถอนเงินซองประกันสัญญา การรับเงิน 1. ขั้นตอนในการติดต่อยื่นวางเงินค่าประกันซองประกวดราคา 1. ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนำหลักประกันซองอย่างหนึ่งอย่างใดดังกล่าวข้างต้นมายื่นต่อคณะกรรมการผู้มีหน้าที่รับซองเสนอราคาตามวันและเวลากำหนด 2. เจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จรับเงินหรือหลักฐานการรับเงินประกันซองประกวดราคาให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการยืนซองประกวดราคา 3. เมื่อสิ้นสุดเวลาตามที่ประกาศแจ้งความประกวดราคา เจ้าหน้าที่จะรวบรวมหลักฐานและรายงานถึงจำนวนที่มีผู้มายื่นซองประกวดราคาให้หน่วยงานที่ดำเนินการประกวดราคาซื้อหรือจ้างทราบ 2. การถอนเงินประกันซองประกวดราคา • ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม หลักเกณฑ์ 1. เมื่อทราบผลการประมูลในวันเปิดซองว่าประมูลไม่ได้ก็ขอถอนได้ โดยทำเรื่องแจ้งมาที่เขตเพื่อยื่นความจำนงขอถอนเงินได้ กรณีผลการประกวดราคาแล้วและมิได้เป็นรายที่ต้องยึดไว้พิจารณา 3 ราย 2. สำหรับผู้ที่อยู่ในข่ายที่จะได้รับการพิจารณา จะคืนให้หลังวันเซ็นสัญญา คือเมื่อผู้มีอำนาจซื้อหรือสั่งจ้างได้มีคำสั่งเด็ดขาดให้ซื้อหรือจ้างจากผู้เข้าประกวดราคารายใดแล้วเรียกให้ผู้เข้าประกวดราคารายนั้นมาเซ็นสัญญาสั่งซื้อหรือสั่งจ้างแล้ว หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง 1. ผู้เป็นเจ้าของกิจการมารับด้วยตนเองพร้อมบัตรประชาชนตัวจริงมาแสดง 2. กรณีผู้เป็นเจ้าของไม่สามารถมาด้วยตนเอง ให้มอบหมายบุคคลอื่นมาแทนโดยทำหนังสือมอบอำนาจมีข้อความระบุว่ามอบให้ใครมารับเงิน เป็นค่าอะไร จำนวนเท่าไรและต้องมีพยาน 2 คนเซ็นเป็นพยานด้วย พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวของผู้เป็นเจ้าของบัตรประจำตัวของผู้รับมอบ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 3. เอกสารหรือใบเสร็จรับเงิน ที่เจ้าหน้าที่การเงินออกให้เป็นหลักฐานในการรับเงินประกันซอง สถานที่ติดต่อ หน่วยงานที่ได้ยื่นหลักประกันซองไว้ เช่น ยื่นไว้ที่ฝ่ายโยธา ก็ให้ติดต่อขอถอนเงินประกันซองจากฝ่ายโยธาเป็นต้น ขั้นตอนในการติดต่อขอถอนเงินประกันซองประกวดราคา 1. เมื่อคณะกรรมการเปิดซองประกวดราคาแล้ว ผู้ที่ได้รับการพิจารณาซื้อหรือจ้างสามารถถอนเงินประกันซองจากคณะกรรมการเปิดซองได้ โดยยื่นหลักฐานตามที่กำหนดดังกล่าว 2. กรณีที่คณะกรรมการเปิดซองเห็นว่าควรให้ยึดไว้เพื่อรอการอนุมัติให้ผู้ขายกำหนดดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อผู้มีอำนาจสั่งซื้อหรือสั่งจ้างได้อนุมัติการคืนเงินประกันซองแล้ว หน่วยงานก็จะแจ้งให้มารับคืนเงินประกันซองได้ต่อไป 3. สำหรับรายที่ได้รับอนุมัติให้เป็นผู้ซื้อหรือจ้างให้ทำหนังสือแจ้งความประสงค์ขอถอนเงินประกันซองพร้อมหลักฐานตามที่กำหนดดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่ เมื่อได้ทำสัญญาเรียบร้อยแล้วจะคืนเงินประกันซองให้ต่อไป 3. การรับหลักประกันสัญญา • ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม หลักเกณฑ์ ผู้ที่ได้รับการพิจารณาให้ซื้อหรือจ้างเมื่อได้รับแจ้งให้มาทำสัญญา ต้องยื่นหลักประกันสัญญาอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ 1. เงินสด 2. เช็คที่ธนาคารรับรอง หรือเช็คที่ธนาคารเซ็นสั่งจ่าย ซึ่งเป็นเช็คลงวันที่ที่ใช้เช็คนั้นชำระต่อกรุงเทพมหานคร หรือก่อนวันนั้นไม่เกิน 3วันทำการ 3. หนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศ ตามแบบที่กำหนด 4. พันธบัตรรัฐบาลไทยเป็นจำนวนเงินในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 แต่ไม่เกินร้อยละ10 ของราคาพัสดุที่ตกลงชื้อหรือจ้างกับหน่วยงานที่ดำเนินการซื้อหรือจ้าง หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง 1. ผู้เป็นเจ้าของกิจการต้องมาลงชื่อในสัญญาด้วยตนเอง หากไม่สามารถมาได้ต้องมอบหมายบุคคลอื่นมาแทน โดยต้องทำหนังสือมอบอำนาจมาด้วย 2. บัตรประจำตัวของผู้เป็นเจ้าของกิจการ และบัตรประจำตัวของผู้รับมอบ (กรณีเจ้าของกิจการมิได้มาด้วยตนเอง) 3. บัตรประจำตัวของผู้เป็นเจ้าของกิจการ (กรณีมาด้วยตนเอง) 4. ตรายางบริษัท ห้าง ร้าน 5. เงินประกันสัญญาตามที่จำนวนที่กำหนด สถานที่ติดต่อ ตามหนังสือของหน่วยงานที่แจ้งไป เช่น ฝ่ายโยธา ได้มีหนังสือแจ้งให้นำหลักฐานมาทำสัญญาก็ให้นำหลักประกันสัญญามาติดต่อทำสัญญากับฝ่ายโยธาของสำนักงานเขตนั้น ขั้นตอนในการติดต่อยื่นหลักประกันสัญญา 1. ผู้ได้รับการพิจารณาซื้อหรือจ้างให้มายังสถานที่ทำสัญญาตามที่กำหนดพร้อมหลักฐาน 2. เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบรายละเอียดว่ามีหลักฐานครบถ้วนหรือไม่ 3. กรณีที่นำเงินสดหรือเช็คมาค้ำประกันสัญญา เจ้าหน้าที่การเงินจะออกใบเสร็จรับเงิน ให้ไว้เป็นหลักฐาน 4. การถอนเงินประกันสัญญา • ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม หลักเกณฑ์ หลังจากวันที่ส่งของหรือส่งมอบงานถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาแล้ว จะพ้นภาระผูกพันตามสัญญา ผู้ยื่นหลักประกันสัญญาสามารถขอถอนหลักประกันสัญญาคืนได้ หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง 1. หนังสือของบริษัท ห้าง ร้าน ถึงหน่วยงานที่ซื้อ หรือจ้างแจ้งรายละเอียดขอถอนหลักประกันสัญญา 2. กรณีที่หลักประกันสัญญาเป็นเงินสด ต้องแนบใบเสร็จรับเงินต้นฉบับที่เจ้าหน้าที่การเงินออกให้ในวันที่มาทำสัญญาด้วย สถานที่ติดต่อ หน่วยงานที่ได้ติดต่อทำสัญญาไว้ ขั้นตอนในการติดต่อขอถอนหลักประกันสัญญา 1. ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนำหลักฐานมาติดต่อกับหน่วยงานที่ทำสัญญา 2. กรณีหลักประกันสัญญาเป็นเงินสด เช็คที่ธนาคารสั่งจ่าย เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเห็นว่าถูกต้องแล้วจะดำเนินการตามขั้นตอนจนได้รับอนุมัติ จึงแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับแจ้งมารับคืนเงินต่อไป 3. กรณีหลักประกันสัญญาเป็นหนังสือค้ำประกันสัญญา หน่วยงานคืนหลักประกันสัญญาให้กับผู้ซื้อ/ผู้ขาย/ผู้ได้รับมอบอำนาจ แล้วมอบให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างต่อไป 4. กรณีหลักประกันสัญญาเป็นหนังสือค้ำประกันสัญญาที่ออกโดยสถาบันการเงินหากผู้ขายหรือผู้รับจ้างไม่มารับคืนภายหลังจากพ้นภาระผูกพันภายในกำหนดแล้ว หน่วยงานจะส่งหนังสือค้ำประกันคืนสถานบันการเงินผู้ออกหนังสือค้ำประกันนั้น และแจ้งต่อผู้ออกหนังสือค้ำประกันว่าผู้ขาย/ผู้รับจ้างรายนั้นพ้นภาระผูกพันในการค้ำประกันสัญญาในเรื่องดังกล่าวแล้ว พร้อมทั้งแจ้งให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบ 5. กรณีหลักประกันสัญญาเป็นเงินสดหรือเช็คที่ธนาคารสั่งจ่าย หากพ้นภาระผูกพันแล้ว และได้ติดตามให้ผู้ขาย/ผู้รับจ้างไปรับเงินภายในกำหนดแล้ว หากผู้ขาย/ผู้รับจ้างเพิกเฉยหรือไม่ติดต่อแจ้งปัญหาอุปสรรคในการขอรับเงินดังกล่าว หน่วยงานจะดำเนินการส่งเงินนั้นเข้าเป็นรายได้ของกรุงเทพมหานคร 5.การรับเงิน หลักเกณฑ์ งบประมาณ กทม. งบประมาณเงินอุดหนุนจากรัฐบาลหรือจากแหล่งเงินอื่นที่ได้รับโอนเข้าบัญชีของสำนักงานเขต .ผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ดำเนินงานเสร็จบริบูรณ์ ให้มารับเงินค่าสินค้าหรือค่าจ้างที่ฝ่ายการคลัง เมื่อได้รับอนุมัติจากสำนักงานการคลัง กรุงเทพมหานครให้โอนเงินมาจ่ายที่ฝ่ายการคลังสำนักงานเขต ส่วนงบประมาณจากแหล่งเงินอื่นๆที่ไม่ได้มีการโอนเข้าบัญชีของสำนักงานเขต. ผู้ขาย หรือผู้รับจ้างติดต่อรับเงินที่กองระบบการคลัง สำนักงานการคลัง กรุงเทพมหานคร หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง 1. บัตรประจำตัวของผู้เป็นเจ้าของกิจการตัวจริง พร้อมถ่ายเอกสารรับรองสำเนา 1 ชุด 2. กรณีผู้เป็นเจ้าของไม่สามารถมาด้วยตนเอง ให้มอบหมายบุคคลอื่นมาแทนโดยทำหนังสือมอบอำนาจมีข้อความระบุว่ามอบให้ใครมารับเงิน เป็นค่าอะไร จำนวนเท่าไร และต้องมีพยาน 2 คนเซ็นเป็นพยานด้วย พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวของผู้เป็นเจ้าของบัตรประจำตัวของผู้รับมอบ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง 3. ใบเสร็จรับเงินค่าสินค้า หรือค่าจ้าง ค่าธรรมเนียม ผู้ขายสินค้าหรือรับจ้างทำงานให้กับสำนักงานเขต จะต้องชำระภาษีหัก ณ ที่จ่ายดังนี้ - นิติบุคคลตั้งแต่ 500 บาท ขึ้นไป หักภาษี ณ ที่จ่าย 1% - ร้านค้า,บุคคลธรรมดา ตั้งแต่ 10.000 บาท ขึ้นไป หักภาษี ณ ที่จ่าย 1% สถานที่ติดต่อ ฝ่ายการคลัง สำนักงานเขต ขั้นตอนในการติดต่อขอรับเงิน 1. ผู้มารับเงินนำหลักฐานมาติดต่อ 2. เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ เห็นว่าถูกต้องครบถ้วนจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนเสร็จแล้วมอบเช็คเงินสดค่าสินค้าหรือค่าจ้างที่หักภาษีแล้ว แก่ผู้มารับเงินต่อไป บทกำหนดโทษ 1. ในกรณีที่ผู้ขายสินค้าให้กับสำนักงานเขตส่งมอบสินค้าไม่ทันกำหนดตามใบสั่งซื้อหรือสัญญาซื้อจะต้องเสียค่าปรับเป็นรายวันในอัตราตายตัวระหว่างร้อยละ 0.01-0.20 ของราคาพัสดุที่ยังไม่ได้รับมอบ 2. ในกรณีที่ผู้รับจ้างทำงานให้สำนักงานเขตไม่แล้วเสร็จตามใบสั่งจ้าง หรือสัญญาจ้าง จะต้องเสียค่าปรับเป็นรายวันเป็นจำนวนเงินตายตัวในอัตราระหว่าง ร้อยละ0.01-0.10 ของราคาจ้างนั้น แต่ต้องไม่ต่ำกว่าวันละ 100 บาท นับถัดจากวันสิ้นสุดของสัญญาจนถึงวันส่งมอบ แต่ถ้าเป็น รับชำระเงิน 1. ค่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน, ภาษีบำรุงท้องที่, ภาษีป้าย ผู้ชำระเงินค่าภาษีต้องติดต่อที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขต เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ตรวจสอบคำนวณภาษี และเขียนใบนำชำระเงินค่าภาษี ผู้ชำระเงินค่าภาษีจะต้องนำมายื่นพร้อมชำระเงินที่ฝ่าย การคลัง สำนักงานเขต 2. ค่าธรรมเนียมต่างๆ ได้แก่ - ใบอนุญาตประกอบกิจการค้า - ใบอนุญาตสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร - ใบอนุญาตสถานที่แต่งผม - ใบอนุญาตผู้รับจ้างแต่งผม - ใบอนุญาตการทำน้ำแข็งเพื่อการค้า - ใบอนุญาตตลาดเอกชน ผู้ชำระเงินค่าธรรมเนียมต้องติดต่อที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขต เพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดลอมและสุขาภิบาลตรวจสอบคำนวณค่าธรรมเนียมและเขียนใบนำชำระเงินค่าธรรมเนียม ผู้ชำระค่าธรรมเนียมจะต้องนำมายื่นพร้อมชำระเงินที่ฝ่ายการคลัง สำนักงานเขต |