ฝ่ายปกครอง
ฝ่ายปกครอง
ฝ่ายปกครองมีหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้...
1. การรับเรื่องราวร้องทุกข์
2. การจดทะเบียนพาณิชย์
3. การจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
4. การจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม
5. การทำพินัยกรรม การตัดทายาท ฯลฯ
6. การขอเครื่องราชอิสยาภรณ์ให้แก่ผู้ทำประโยชน์แก่ทางราชการ
7. งานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
8. งานเกี่ยวกับสมาชิกสภาเขต
9. งานเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ส. ผว.กทม. ส.ก. และ ส.ข.
10. การรับรองบุคคลและเรื่องราวต่างๆ
- รับรองว่าเป็นบุคคลเดียวกัน
- รับรองลายมือชื่อประกันตัวผู้ต้องหา
- รับรองสถานที่เกิด
- รับรองสาธารณภัย (อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย และอื่นๆ)
- รับรองความประพฤติ
- รับรองว่าบุคคลยังมีชีวิตอยู่เพื่อรับบำนาญ
- รับรองสถานภาพการสมรส
- รับรองลายือชื่อกรณียินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศ
- รับรองว่าได้รับเงินอุปการะเลี้ยงดูจากบุตร หรือผู้ส่งเงินในต่างประเทศ
- รับรองการใช้อำนาจปกครองบุตร
- รับรองลายมือชื่อผู้ค้ำประกันในหนังสือสัญญากู้ยืมเงิน (กยศ. และ กรอ.)
- สอบสวนบุคคลผู้อุปการะพักการลงโทษ
- สอบสวนทายาท
- สอบสวนเกี่ยวกับสิทธิของบุคคล กรณีต่างๆ (บันทึก ปค.14)
การรับรองบุคคลและเรื่องราวต่าง ๆ
หลักฐานที่ต้องใช้
1. บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด
2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน(ฉบับจริง) พร้อมสำเนา 1 ชุด
3. ใบสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว - ชื่อสกุล ฉบับจริงพร้อมสำเนา (ถ้ามี) 1 ชุด
4. ใบสำคัญการสมรส (ฉบับจริง) พร้อมสำเนา (ถ้ามี)
5. เอกสารที่จะให้รับรอง และเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ฉบับจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด
6. พยานบุคคลอย่างน้อย 2 คน พร้อมด้วย
- บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด
- ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน ฉบับจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด
** กรณียกเว้นไม่ต้องใช้พยานบุคคล คือ เรื่องรับรองลายมือชื่อกรณียินยอมให้บุตรเดินทางไปต่างประเทศ และรับรองฐานะของบุคคลเพี่อรับอุปการะผู้พ้นโทษ
ขั้นตอนการออกหนังสือรับรองบุคคล
1. ยื่นคำร้อง
2. ตรวจสอบหลักฐาน
3. สอบสวนถ้อยคำผู้ร้องและพยาน
4. บันทึก ป.ค.14 กรณีเรื่องสอบสวน
5. จัดทำหนังสือรับรอง
6. เสนอผู้มีอำนาจลงนามอนุมัติ
7. ผู้ร้องรับหนังสือรับรอง/เอกสาร และลงลายมือชื่อรับเป็นหลักฐาน
การทำพินัยกรรม
หลักฐานที่ต้องใช้
1. บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด
2. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน (ฉบับจริง) พร้อมสำเนา 1 ชุด
3. หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่จะทำพินัยกรรม ฉบับจริงพร้อมสำเนา 1 ชุด
4. ใบรับรองแพทย์ว่ามีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์
5. พยานบุคคลอย่างน้อย 2 คน
6. หลักฐานอื่นๆ (ถ้ามี)
ขั้นตอนการทำพินัยกรรม
1. ยื่นคำร้องขอทำพินัยกรรม
2. ตรวจสอบเอกสารหลักฐาน
3. แจ้งข้อความที่จะใส่ในพินัยกรรมต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน
4. นายทะเบียนจดข้อความที่ผู้ทำพินัยกรรมแจ้งให้ทราบไว้ และอ่านข้อความให้ฟัง
5. ให้ผู้ทำพินัยกรรมและพยาน ลงลายมือชื่อเป็นสำคัญ
6. นายทะเบียนลงลายมือชื่อ และวัน เดือน ปี และประทับตราตำแหน่งเป็นสำคัญ
7. ถ้าผู้ทำพินัยกรรมไม่ขอรับเอาไปเก็บไว้เอง ให้นายทะเบียนเก็บพินัยกรรมไว้ ณ สำนักงานเขต
8. ผู้ทำพินัยกรรมถึงแก่ความตายแล้ว ผู้จัดการมรดกมาขอรับพินัยกรรม ให้ลงลายมือชื่อเป็นหลักฐาน
การจดทะเบียนพาณิชย์
หลักฐานที่ต้องใช้
- กรณีเป็นเจ้าของสถานที่ (เจ้าบ้าน)
1. บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน ฉบับจริงพร้อมสำเนาของผู้ยื่นขอจดทะเบียน
2. แผนที่ตั้งร้านค้า
3. ภาพถ่ายร้านค้าพร้อมสินค้า
4. หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้รับมอบและพยาน (กรณีผู้อื่นดำเนินการแทน)
- กรณีขอใช้สถานที่ของผู้อื่น
1. บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน ฉบับจริงพร้อมสำเนาของผู้ยื่นขอจดทะเบียน
2. หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่* หรือ สัญญาเช่า**
3. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าบ้านหรือ (เจ้าบ้าน หรือ เจ้าของกรรมสิทธิ์***)
4. หนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัท****
5. ทะเบียนบ้านสถานที่ตั้งร้านค้า
6. แผนที่ตั้งร้านค้า
7. ภาพถ่ายร้านค้าพร้อมสินค้า
8. หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบและพยาน (ถ้ามี)
* แนบสำเนาบัตรประชาชนของพยานพร้อมรับรองสำเนา
** ผู้ให้เช่าจะต้องเป็นเจ้าบ้านหรือเจ้าของกรรมสิทธิ์เท่านั้น
*** เจ้าของกรรมสิทธิ์ให้แนบสัญญาซื้อขาย หรือ ใบขอเลขบ้าน และหรือ โฉนดที่ดิน
**** เจ้าของสถานที่เป็นนิติบุคคลให้แนบสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านผู้มีอำนาจลงนามในบริษัทพร้อมรับรองสำเนา
หมายเหตุ
- ให้มีหนังสือจัดตั้งห้างหุ้นส่วน (ขอเอกสารที่สรรพากรพื้นที่)
- ให้ปริ้นหน้าแรกเว็บไซต์และหน้าที่ระบุการจ่ายเงิน
- ให้มีหนังสือรับรองจากเจ้าของลิขสิทธิ์
1. รับคำขอจดทะเบียนพาณิชย์
2. ตรวจสอบพิจารณา/ออกเลขรับคำขอ
3. เรียกเก็บค่าธรรมเนียม/ออกใบเสร็จรับเงิน
4. ออกเลขทะเบียนพาณิชย์ และจัดทำใบทะเบียนพาณิชย์/สำเนาเอกสาร
5. ลงนาม/จ่ายใบทะเบียนพาณิชย์/สำเนาเอกสาร
*** การให้บริการต่าง ๆ กฎหมายกำหนดให้ ยกเว้นไม่ต้องจดทะเบียนพาณิชย์***
การจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ
หลักฐานที่ต้องใช้
ผู้ขอจัดตั้งมูลนิธิยื่นคำขอตามแบบ ม.น.1 ณ สำนักงานเขตที่สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิจะตั้งขึ้น พร้อมเอกสารหลักฐานจำนวน 3 ชุด (เอกสารทุกอย่างรับรองสำเนา) คือ
- รายชื่อเจ้าของทรัพย์สินและรายการทรัพย์สินที่จะจัดสรรสำหรับมูลนิธิ
- รายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นกรรมการของมูลนิธิทุกคน
- ข้อบังคับของมูลนิธิ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดการมูลนิธิ และการจัดการทรัพย์สินและบัญชีของมูลนิธิ
- คำมั่นว่าจะให้ทรัพย์สินแก่มูลนิธิของเจ้าของทรัพย์สินที่ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียน
- สำเนาพินัยกรรม ในกรณีที่มีการขอจดทะเบียนมูลนิธิหรือการจัดสรรทรัพย์สินสำหรับมูลนิธิ ตาม (1) เกิดขึ้นโดยผลของพินัยกรรม
- ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นที่หน่วยงานของรัฐออกให้และภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านของบุคคลต่าง (1) และ (2) เว้นแต่ในกรณีที่บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ไม่มีหลักฐานตามที่กำหนด เช่น คนต่างด้าวหรือภิกษุ ให้ใช้หลักฐานอื่นที่สามารถแสดงสถานภาพของบุคคลและถิ่นที่อยู่ในทำนองเดียวกันกับที่กำหนดไว้ดังกล่าวได้
- แผนผังโดยสังเขปแสดงที่ตั้งสำนักงานใหญ่ และที่ตั้งสำนักงานสาขา (ถ้ามี)
- หนังสืออนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองให้ใช้สถานที่ตาม (7)
- สำเนารายงานการประชุมจัดตั้งมูลนิธิ (ถ้ามี)
- เอกสารอื่น ๆ ถ้ามี เช่น หนังสืออนุญาตจากเจ้าของชื่อหรือทายาท หรือหน่วยงานของรัฐ หรือนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง
- แบบรับรองของบุคคลผู้จะเป็นกรรมการของมูลนิธิ
ขั้นตอนการจดทะเบียนมูลนิธิ
1. ให้ผู้จะเป็นสมาชิกยื่นคำขอจดทะเบียน ณ สำนักงานเขตที่มูลนิธิ ตั้งอยู่พร้อมเอกสาร
2. สำนักงานเขตพิจารณาเอกสารทั้งหมดว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ถ้าถูกต้องครบถ้วนจะส่งเรื่องให้สำนักงานปกครองและทะเบียนเพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งและนำเสนอต่อนายทะเบียนมูลนิธิ กรุงเทพมหานคร
3. เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็จะออกเอกสารสำคัญรับจดทะเบียน และส่งประกาศไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้วจึงส่งเรื่องกลับมายังสำนักงานเขต เพื่อแจ้งให้ผู้ขอจดทะเบียนทราบและขอรับเอกสารการจดทะเบียน และชำระค่าธรรมเนียม
ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมูลนิธิได้ที่เว็บไซต์ด้านล่างนี้
http://203.155.220.217/ard/asso_found.html
การจดทะเบียนจัดตั้งสมาคม
หลักฐานที่ต้องใช้
ผู้จะเป็นสมาชิกของสมาคมจำนวนไม่น้อยกว่า 3 คน ร่วมกันยื่นคำขอตามแบบ ส.ค.1 ณ สำนักงานเขตที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมจะตั้งขึ้น พร้อมด้วยเอกสารหลักฐาน จำนวน 3 ชุด คือ
- ส.ค. 1
- ข้อบังคับของสมาคม
- บัญชีรายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่าสิบคน
- บัญชีรายชื่อ ที่อยู่ และอาชีพของผู้จะเป็นกรรมการของสมาคม/มูลนิธิ
- รายงานการประชุมจัดตั้งสมาคม/มูลนิธิ
- แผนผังที่ตั้งสังเขปของสมาคม/มูลนิธิทั้งสำนักงานใหญ่และสำนักงานสาขา (ถ้ามี)
- หนังสืออนุญาตให้ใช้สถานที่ของสมาคม/มูลนิธิ
- แบบรับรองของบุคคลผู้จะเป็นกรรมการของมูลนิธิ
- สำเนาหรือภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ และ ภาพถ่ายสำเนาทะเบียนบ้านของผู้จะเป็นสมาชิกซึ่งยื่นคำขอและผู้จะเป็นกรรมการของสมาคม /มูลนิธิ
- สำเนาหรือภาพถ่ายใบอนุญาตจัดตั้งสมาคม/มูลนิธิหรือองค์การตามกฎหมายว่าด้วยวัฒนธรรมแห่งชาติ ในกรณีที่สมาคมมีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับงานของสภาวัฒนธรรมแห่งชาติ
- เอกสารอื่น ๆ (ถ้ามี)
ขั้นตอนการจดทะเบียนสมาคม
1. ให้ผู้จะเป็นสมาชิกยื่นคำขอจดทะเบียน ณ สำนักงานเขตที่สมาคม ตั้งอยู่พร้อมเอกสาร
2. สำนักงานเขตพิจารณาเอกสารทั้งหมดว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ถ้าถูกต้องครบถ้วนจะส่งเรื่องให้สำนักงานปกครองและทะเบียนเพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งและนำเสนอต่อนายทะเบียนมูลนิธิ กรุงเทพมหานคร
3. เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนเรียบร้อยแล้วก็จะออกเอกสารสำคัญรับจดทะเบียน และส่งประกาศไปยังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้วจึงส่งเรื่องกลับมายังสำนักงานเขต เพื่อแจ้งให้ผู้ขอจดทะเบียนทราบและขอรับเอกสารการจดทะเบียน และชำระค่าธรรมเนียม
สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายปกครอง สำนักงานเขตมีนบุรี
โทร. 0 2540 7160 ต่อ 6655 , 0 2540 7214
โทรสาร 0 2540 7267
E-Mail : khet_minburi@yahoo.com