ถาม   เอกสารที่ใช้ประกอบการขอต่อใบอนุญาตกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมีอะไรบ้าง

ตอบ   1.  สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านเจ้าของกิจการ (ผู้ประกอบการ/ผู้ถือใบอนุญาต)
         2.  สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้จัดการ
         3.  สำเนาทะเบียนบ้านของบ้านที่ใช้เป็นที่ตั้งสถานประกอบการ
         4.  สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แทนนิติบุคคล (กรณีผู้รับเป็นนิติบุคคล)
         5.  หลักฐานแสดงว่าอาคารที่ใช้เป็นสถานประกอบการสามารถใช้ประกอบกิจการนั้นได้ โดยถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร
         6.  หนังสือยินยอมให้ใช้อาคารหรือสัญญาเช่าจากเจ้าของอาคาร (กรณีผู้รับใบอนุญาตไม่มีกรรมสิทธิ์ในอาคารที่ใช้เป็นสถานประกอบการ)
         7.  หนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของไม่สามารถมายื่นคำขอด้วยตนเอง)
         8.  ใบอนุญาตให้ประกอบกิจการจากส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้องเช่น ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมฯ
         9.  อื่น ๆ (ผลการตรวจวัดทางสิ่งแวดล้อมด้านคุณภาพอากาศเสียง น้ำเสีย เชื้อโรค ผลการตรวจสภาพน้ำฯ)
         10. ใบอนุญาตฉบับจริง พร้อมค่าธรรมเนียม
 

ถาม   เอกสารที่ใช้ในการต่อใบอนุญาตสถานที่จำหน่ายอาหาร มีอะไรบ้าง

ตอบ   1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขอรับใบอนุญาต
         2.  สำเนาทะเบียนบ้านที่ใช้เป็นที่ตั้งสถานประกอบการ
         3.  สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แทนนิติบุคคล (กรณีผู้ขอรับ
     ใบอนุญาตเป็นนิติบุคคล)
         4.  หนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมายพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ
     (กรณีผู้ประกอบการไม่สามารถมายื่นคำขอด้วยตนเอง)
         5.  สำเนาหนังสือรับรองว่าผู้ถือใบอนุญาตผ่านการอบรมตามหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารที่กรุงเทพมหานคร
กำหนดหรือหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหารของสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนหรือหน่วยงานอื่นๆที่กรุงเทพมหานคร รับรอง
         6.  ใบรับรองแพทย์การตรวจโรคติดต่อ 9 โรค
         7.  ใบอนุญาตฉบับจริง พร้อมค่าธรรมเนียม
 

ถาม   บัตรผู้สัมผัสอาหารมีอายุกี่ปี? กรณีบัตรผู้สัมผัสอาหารหมดอายุต้องทำอย่างไร

ตอบ   - บัตรผู้สัมผัสอาหารมี อายุ 3 ปี
         -  ติดต่อได้ที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตที่ผู้ประกอบการเปิดกิจการ
 

ถาม   หากต้องการแจ้งให้จับสุนัขจรจัดจะต้องทำอย่างไร

ตอบ   ให้มาเขียนคำร้องที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน เบอร์โทรศัพท์ ของผู้ร้องเรียนที่สามารถติดต่อได้ เจ้าหน้าที่จัดทำหนังสือ  ประสานกองสัตวแพทย์  สำนักงานสัตวแพทย์ให้มาดำเนินการต่อไป
 

ถาม   พบเห็นการเผาหญ้าจะดำเนินการอย่างไร

ตอบ   แจ้งข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลเพื่อดำเนินการและประสานฝ่ายเทศกิจร่วมตรวจสอบ

ถาม   มีผู้ป่วยเป็นไข้เลือดออกในบ้าน/ชุมชนปัจจุบันรักษาตัวที่โรงพยาบาลในพื้นที่เขตมีนบุรี  ต้องทำอย่างไร

ตอบ   ให้มาเขียนคำร้องขอฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุงที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล พร้อมแนบใบรับรองแพทย์ของผู้ป่วยเพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามคำร้องดังกล่าว

ถาม   สอบถามอัตราค่าบริการฉีดพ่นหมอกควันกำจัดยุง (กรณีไม่มีผู้ป่วย)

ตอบ   - พื้นที่ไม่เกิน 300 ตารางเมตร ครั้งละ 200 บาท
         - พื้นที่เกิน 300 ตารางเมตร คิดค่าบริการเพิ่มขึ้นต่อ 100 ตารางเมตร = 50 บาท
         - พื้นที่เกิน 50 ตารางเมตร ขึ้นไป ให้คิด 100 ตารางเมตร

หมายเหตุ  พื้นที่ 1 ตารางวา = 4 ตารางเมตร
                พื้นที่ 1 ไร่ = 1,600 ตารางเมตร
                ค่าธรรมเนียม  850 บาท

ถาม   การขออนุญาตทำการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงต้องทำอย่างไร

ตอบ   1.  รับและยื่นคำขอตามแบบ ฆษ.1 ณ สถานีตำรวจท้องที่ เพื่อให้ความเห็นชอบในคำขอ
         2.  นำคำขอที่มีความเห็นดังกล่าวมายื่นที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล สำนักงานเขตท้องที่
         3.  แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขออนุญาต (ถ่ายเอกสารและรับรองสำเนา)
         4.  หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่หรือสัญญาเช่ากรณีผู้ขออนุญาตไม่มีกรรมสิทธิ์ในอาคารหรือสถานที่ที่ขออนุญาต
 

ถาม   สอบถามอัตราค่าธรรมเนียมการขอใช้เครื่องขยายเสียง

ตอบ   - เพื่อการค้า  ประจำที่   ค่าธรรมเนียม  75  บาท
         - เพื่อการค้า  เคลื่อนที่   ค่าธรรมเนียม  60  บาท
         - ไม่ใช่การค้า ประจำที่   ค่าธรรมเนียม  10  บาท
         - ไม่ใช่การค้า เคลื่อนที่   ค่าธรรมเนียม  10  บาท 

ถาม   เอกสารที่ต้องใช้ในการขอรับใบอนุญาต (รายใหม่) ต้องใช้อะไรบ้าง

ตอบ   1.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน ผู้ถือใบอนุญาตหรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (ไม่เกิน 6 เดือน) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน,หนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานของผู้แทนนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
         2. สำเนาทะเบียนบ้านของบ้านที่ใช้เป็นที่ตั้งสถานประกอบการ
         3. หนังสือมอบอำนาจที่ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของไม่สามารถมายื่นคำขอด้วยตนเอง)
         4. หนังสือแจ้งการใช้ประโยชน์ที่ดินหรือเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตกรุงเทพมหานคร ที่ได้รับการรับรองจากเจ้าหน้าที่แล้ว
         5. หลักฐานการขออนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารดังกล่าวสามารถใช้ประกอบกิจการตามที่ขออนุญาตได้ เช่น อ.1 หรือ อ.6
         6. หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิในการใช้อาคารที่เป็นสถานที่ประกอบการ เช่น สัญญาซื้อขาย,โฉนด ฯ
         7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของอาคารหรือกรณีเจ้าของอาคารเป็นนิติบุคคล สำเนาหนังสือรับรอง จดทะเบียนนิติบุคคลพร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน
         8. สัญญาเช่าหรือหนังสือยินยอมจากเจ้าของอาคาร (ภาษาไทย) กรณีผู้รับใบอนุญาตไม่มีกรรมสิทธิ์ในอาคารที่ใช้เป็นสถานประกอบการ
         9. แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานประกอบการและแผนผังภายในสถานประกอบการ
         10.สำเนาหนังสือรับรองว่าผู้ถือใบอนุญาตผ่านการอบรมตามหลักสูตรการสุขาภิบาลอาหาร (กรณีสถานที่จำหน่าย
อาหาร)
         11.ใบอนุญาตประกอบกิจการจากส่วนราชการอื่นที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) เช่น ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม ฯ
         12.อื่น ๆ (ผลการตรวจวัดทางสิ่งแวดล้อมด้านคุณภาพอากาศ เสียง น้ำเสีย เชื้อโรค ผลการตรวจสภาพน้ำฯ)