1. ​วัดลาดบัวขาว


     วัดลาดบัวขาว หรือวัดราชโยธา สถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธ ซึ่งสร้างโดยพระยาราชโยธา หรือพระยาสุรินทร์ราชเสนา (เนียม สิงหเสนี) และพระยาสุเรนทร์ราชเสนา สองพี่น้อง เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2415 หลังกลับจากเสร็จศึกปราบเขมรแข็งเมืองเสร็จแล้ว วัดแห่งนี้ได้พระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2425 พร้อมกับได้รับพระราชทานนามว่า “วัดลาดบัวขาว” เพราะวัดนี้ตั้งอยู่   ใกล้กับบึงน้ำซึ่งมีดอกบัวสีขาวเป็นจำนวนมาก แต่ชาวบ้านยังคงเรียกชื่อเดิมของวัดแห่งนี้ว่า “วัดราชโยธา” หรือ “วัดพระราชโยธา” หลังจากสร้างวัดนี้เสร็จแล้วพระยาราชโยธาได้นิมนต์หลวงปู่ทอง (อายะนะ)  ซึ่งขณะนั้น จำพรรษาอยู่ที่วัดเงิน บางพรหม อำเภอตลิ่งชัน ให้มาครองวัดเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ซึ่งท่านได้เป็นที่นับถือของประชาชนในละแวกวัด และบริเวณใกล้เคียงอย่างมากในเวลาต่อมาท่านมีอายุยืนยาวถึง 117 ปี ปัจจุบันลูกศิษย์ได้สร้างรูปเหมือนหุ่นขี้ผึ้งของท่านไว้ที่วัดแห่งนี้ด้วย
     วัดลาดบัวขาว นับเป็นวัดเพียงแห่งเดียวในพื้นที่เขตสะพานสูง ปัจจุบันมีอายุกว่า 130 ปีแล้ว มีอุโบสถหลังเก่ามีอายุกว่า 100 ปี ขณะนี้ ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ จากกรมศิลปากร วัดแห่งนี้มีพื้นที่ 20 ไร่ 3 งาน 1 ตารางวา
     ปัจจุบัน เนื่องจากกุฏิหลังแรกท่านเจ้าอาวาสสร้างด้วยดินและหญ้าแห้ง (ฟาง) จึงชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา เหลืออยู่เพียง บานประตู และบานหน้าต่างกุฏิที่ทำด้วยไม้เท่านั้น และปัจจุบันตั้งวางไว้ ณ บริเวณศาลากลางของวัด

-------------------------------
 
2. มัสยิดอัลยุซรอ(หลอแหล)


     มัสยิดอัลยุซรอ (หลอแหล) ประมาณปี พ.ศ. 2385 บรรพบุรุษของชาวหลอแหล ได้อพยพมาจากรัฐปัตตานี ส่วนหนึ่งได้มาตั้งถิ่นฐานทำมาหากินโดยการหักร้างถางพง เพื่อทํานาปลูกข้าว ตั้งบ้านเรือนอยู่ตามลำคลองหลอแหล คลองมณี และคลองบัวคลี่ โดยระยะแรกมีประมาณ 11 ครอบครัว ในปี พ.ศ.2395 มีผู้อาศัยเพิ่มขึ้น จึงได้มีการสร้างสุเหร่าซีรอ เพื่อทำการละหมาดร่วมกัน ต่อมาไม่นานมีผู้อพยพมาอยู่รวมกันมากขึ้น กลายเป็นชุมชนใหญ่ ผู้ทําหน้าที่อิหม่ามจึงได้คิดสร้างสุเหร่า ขยายกว้างขึ้นในปี พ.ศ.2410 หลังจากนั้น ได้มีพระราชบัญญัติมัสยิดอิสลาม พ.ศ.2490 สุเหร่าแห่งนี้จึงได้จดทะเบียนหมายเลขที่ 54 เป็นมัสยิดอัล-ยุซรอ (หลอแหล) และคณะกรรมการมัสยิดได้ก่อสร้างอาคารมัสยิดขึ้น จนกระทั้งปี พ.ศ.2544  อาคารมัสยิด ได้เสื่อมสภาพลงคณะกรรมการมัสยิดจึงได้ก่อสร้างอาคารมัสยิดหลังใหม่ ซึ่งเป็นมัสยิดโดมคู่ ที่สูงจนสามารถมองเห็นทิวทัศน์โดยรอบ

-------------------------------
 
3. หอศิลป์ ช่วง มูลพินิจ


     หอศิลป์ ช่วง มูลพินิจ อาคารหอศิลป์ 3 ชั้น ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง เขตสะพานสูง ด้านในจัดแสดงผลงานกว่า 80 ชิ้น ที่เก็บสะสมผลงานตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบัน อาทิเช่น ภาพลายเส้น, สีน้ำ, สีน้ำมัน, ภาพพิมพ์, งานประติมากรรม และงานออกแบบต่าง ๆ โดยเปิดให้เข้าชมเป็นประจำในทุกวันอาทิตย์ที่สอง และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน เวลา 10.00 น. – 17.00 น. โทร. 0-2372-0961

-------------------------------

4. ตลาดนัดสัมมากร


     ตลาดนัดสัมมากร ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 110 ด้านหลังศูนย์การค้าสัมมากรเพลส เป็นตลาดนัด  วันเสาร์ – อาทิตย์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00 น. – 15.00 น. จำหน่ายสิ้นค้าคุณภาพดี และหลากหลาย      โดยแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ
  1. โซนสินค้าที่ไม่ใช่ของกิน เช่น ของตกแต่งบ้าน เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แว่นตา ฯลฯ
  2. โซนตลาดสด จำหน่ายอาหารสด ปลา ไก่ อาหารทะเล ผักสด ผลไม้ อาหารแห้ง อาหารแปรรูป อาหารคาว-หวาน ฯลฯ
  3. โซนอาหารและของเบ็ดเตล็ด เช่น ของขบเคี้ยว อาหารว่าง อาหารตามสั่ง ร้านขายดอกไม้ ฯลฯ

-------------------------------

5. ศูนย์การค้า สัมมากร เพลส


     ศูนย์การค้า สัมมากร เพลส ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง ซอย 110 เป็นศูนย์การค้าในรูปแบบคอมมิวนิตี้ มอลล์ แบ่งเป็นพื้นที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ธนาคาร ฟิตเนส ร้านค้าอื่น ๆ  เพื่อให้สะดวกต่อการเดินเลือกหาสินค้าและบริการ ได้แก่ Education Zone, ZEED Zone หลากหลายด้วยสินค้าแฟชั่น ชั้นนำ, IT Zone, Banking Zone, Food Hall, Villa Supermarket, Service Zone ศูนย์รวมร้านค้า ด้านบริการต่าง ๆ และมุ่งเน้นจัดกิจกรรมที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ทุกคนในครอบครัว ตามนโยบายที่วางไว้ให้ศูนย์การค้า สัมมากร เพลส เป็นศูนย์กลางของชุมชน

-------------------------------

6. เดอะพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง


     เดอะพาซิโอ ทาวน์ รามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง เป็น คอมมิวนิตี้ มอลล์ ในลักษณะ Open Mall คือเป็นพื้นที่เปิดโล่ง แต่พื้นที่ร่ม มีหลังคา ติดแอร์ ทำให้ลูกค้าสามารถเดินช็อปปิ้งแบบสบาย ได้ตลอด ทั้งวัน อีกทั้งยังมีสถานที่พักผ่อนและทำกิจกรรมของครอบครัวในบรรยากาศของสวนสวยร่มรื่น และเพื่อความสะดวกสบายของผู้ใช้รถ ที่นี่ยังมีที่จอดรถกว่า 1,200 คัน แถมเอาใจคนรักจักรยาน ด้วยพื้นที่สำหรับจอดรถจักรยานอีกด้วย

-------------------------------

7. ทับช้าง เพนท์บอล แอนด์ บีบี ไทยแลนด์ 


     ทับช้าง เพนท์บอล แอนด์ บีบี ไทยแลนด์ ตั้งอยู่ 33/8 หมู่ที่ 14, ถ.คู่ขนานมอเตอร์เวย์ด่านทับช้างฝั่งตะวันตก แขวง/เขต สะพานสูง กทม. 10250 โทร. 081 355 3455 E-mail:
info@tubchang.co.th (ริมมอเตอร์เวย์ด่านทับช้างฝั่งเดียวกับสำนักงานเขตสะพานสูง) เป็นสนามกีฬา เพนท์บอล และสนามกีฬาบีบีกัน
  - บริการสนามเพนท์บอล และบีบีกัน พร้อมอุปกรณ์   
  - บริการให้เช่าอุปกรณ์ เพนท์บอล และบีบีกัน
  - รับจัดงานแข่งขัน   
  - ให้คำปรึกษา
  - Organize และสัมมนา   
  - ร้านอาหาร
  - Team Building Service

-------------------------------