ฝ่ายการศึกษา
ฝ่ายการศึกษา
การให้บริการของฝ่ายการศึกษา
พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545
"การศึกษาภาคบังคับ" หมายความว่า การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงปีที่เก้า ของการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
1. หลักเกณฑ์และการนับ
การนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้นับตามปีปฏิทินว่าเด็กอายุครบเจ็ดปีบริบูรณ์ในปีใด ให้นับว่าเด็กมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ด ในปีนั้นถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่เด็กสอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ (จบช่วงชั้นที่ 3 หรือมัธยมศึกษาปีที่ 3)
การแจ้งการส่งเด็กเข้าเรียน ให้นำหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่รับแจ้ง
1. สูติบัตร หรืออสำเน่าสูติบัตร
2. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
3. กรณีไม่มีหลักฐานตามข้อ 1.2 ให้ใช้หลักฐานทางราชการ เช่น หนังสือเดินทาง หนังสือรับรองการเกิด ทะเบียนบ้านของบุคคลที่เข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (ทร.13) หรือทะเบียนสำรวจบัญชีบุคคลในบ้านของกรมประชาสงเคราะห์
ผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 1,000 บาท
ติดต่อสอบถาม คุณพิมพ์ณพัทธ ใยนิรัตน์ โทรศัพท์ 02-326-9015
2. หลักเกณฑ์และวิธีการผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุ
1. การผ่อนผันให้เข้าเรียนก่อนอายุย่างเข้าปีที่เจ็ด
2. เด็กเรียนจบการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา
3. เด็กไม่จบตามข้อ 1) แต่ผู้ปกครองร้องขอและผ่านการประเมินด้านสติปัญญา ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ตามประกาศของคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
4. การผ่อนผันให้เข้าเรียนหลังอายุย่างเข้าปีที่เจ็ด
5. เด็กป่วยด้วยโรคติดต่อร้ายแรง เป็นอุปสรรคต่อการเรียน หรือต้องรักษาตัวเป็นระยะเวลานาน
กรณีมีเหตุจำเป็นหรือสุดวิสัยอื่นใด ที่เด็กไม่สามารถเข้าเรียนได้ตามปกติ ให้ผู้ปกครองยื่นคำร้องต่อผู้บริหารสถานศึกษา ก่อนวันเปิดภาคเรียนแรกของปีการศึกษา ระยะเวลาในการผ่อนผันให้สถานศึกษาพิจารณาโดยคณะกรรมการ
ติดต่อสอบถาม คุณพิมพ์ณพัทธ ใยนิรัตน์ โทรศัพท์ 02-326-9015
3.หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติสำหรับผู้ที่มิใช่ผู้ปกครองที่มีเด็กอาศัยอยู่ด้วย
1. ผู้ใดมีเด็กอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหกอาศัยอยู่ด้วย และยังมิได้เข้าเรียนในสถานศึกษา ในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต้องแจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ เว้นแต่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2. ให้แจ้งภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่เด็กอาศัยอยู่ด้วย โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร หรือวาจา ผู้ใดไม่แจ้งภายในเวลาที่กำหนดหรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
3. การแจ้งให้แนบหลักฐานทะเบียนบ้าน หรือสูติบัตร หรือหลักฐานทางการศึกษา หรือหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง
สรุปโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4, 6, 11, 13, 16, 17, 74 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
ติดต่อสอบถาม คุณพิมพ์ณพัทธ ใยนิรัตน์ โทรศัพท์ 02-326-9015
4. การขออนุญาตใช้บริเวณหรืออาคารของสถานศึกษา
ส่วนราชการหรือเอกชน อาจขออนุญาตใช้บริเวณหรือสถานที่ของสถานศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือสถานที่ประกอบกิจกรรมที่เป็นงานมงคล งานการกุศล หรือกิจกรรมอื่นใด ที่ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นการเฉพาะกิจชั่วระยะได้ และกิจกรรมนั้นต้องไม่เป็นการละเมิดต่อสิทธิหรือรบกวนต่อความเป็นอยู่โดยปกติสุขของประชาชน และต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริเวณหรืออาคารสถานที่ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งนี้ ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อหัวหน้าสถานศึกษานั้น ๆ เพื่อพิจารณาเสนอขอต่อผู้มีอำนาจอนุญาต โดยมีค่าใช้จ่ายตามระเบียบกรุงเทพมหานคร
หลักฐานที่ใช้
1. บัตรประจำตัวผู้ขอ หรือหนังสือของส่วนราชการแล้วแต่กรณี
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
ติดต่อสอบถาม คุณพิมพ์ณพัทธ ใยนิรัตน์ โทรศัพท์ 02-326-9015
พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545
"การศึกษาภาคบังคับ" หมายความว่า การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงปีที่เก้า ของการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
1. หลักเกณฑ์และการนับ
การนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้นับตามปีปฏิทินว่าเด็กอายุครบเจ็ดปีบริบูรณ์ในปีใด ให้นับว่าเด็กมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ด ในปีนั้นถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหก เว้นแต่เด็กสอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ (จบช่วงชั้นที่ 3 หรือมัธยมศึกษาปีที่ 3)
การแจ้งการส่งเด็กเข้าเรียน ให้นำหลักฐานอย่างใดอย่างหนึ่งไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่รับแจ้ง
1. สูติบัตร หรืออสำเน่าสูติบัตร
2. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
3. กรณีไม่มีหลักฐานตามข้อ 1.2 ให้ใช้หลักฐานทางราชการ เช่น หนังสือเดินทาง หนังสือรับรองการเกิด ทะเบียนบ้านของบุคคลที่เข้าเมืองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย (ทร.13) หรือทะเบียนสำรวจบัญชีบุคคลในบ้านของกรมประชาสงเคราะห์
ผู้ปกครองที่ไม่ปฏิบัติตาม ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกิน 1,000 บาท
ติดต่อสอบถาม คุณพิมพ์ณพัทธ ใยนิรัตน์ โทรศัพท์ 02-326-9015
2. หลักเกณฑ์และวิธีการผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุ
1. การผ่อนผันให้เข้าเรียนก่อนอายุย่างเข้าปีที่เจ็ด
2. เด็กเรียนจบการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา
3. เด็กไม่จบตามข้อ 1) แต่ผู้ปกครองร้องขอและผ่านการประเมินด้านสติปัญญา ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ตามประกาศของคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
4. การผ่อนผันให้เข้าเรียนหลังอายุย่างเข้าปีที่เจ็ด
5. เด็กป่วยด้วยโรคติดต่อร้ายแรง เป็นอุปสรรคต่อการเรียน หรือต้องรักษาตัวเป็นระยะเวลานาน
กรณีมีเหตุจำเป็นหรือสุดวิสัยอื่นใด ที่เด็กไม่สามารถเข้าเรียนได้ตามปกติ ให้ผู้ปกครองยื่นคำร้องต่อผู้บริหารสถานศึกษา ก่อนวันเปิดภาคเรียนแรกของปีการศึกษา ระยะเวลาในการผ่อนผันให้สถานศึกษาพิจารณาโดยคณะกรรมการ
ติดต่อสอบถาม คุณพิมพ์ณพัทธ ใยนิรัตน์ โทรศัพท์ 02-326-9015
3.หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติสำหรับผู้ที่มิใช่ผู้ปกครองที่มีเด็กอาศัยอยู่ด้วย
1. ผู้ใดมีเด็กอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหกอาศัยอยู่ด้วย และยังมิได้เข้าเรียนในสถานศึกษา ในระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ต้องแจ้งให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบ เว้นแต่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2. ให้แจ้งภายใน 1 เดือน นับแต่วันที่เด็กอาศัยอยู่ด้วย โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร หรือวาจา ผู้ใดไม่แจ้งภายในเวลาที่กำหนดหรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
3. การแจ้งให้แนบหลักฐานทะเบียนบ้าน หรือสูติบัตร หรือหลักฐานทางการศึกษา หรือหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง
สรุปโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4, 6, 11, 13, 16, 17, 74 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ.2545 ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
ติดต่อสอบถาม คุณพิมพ์ณพัทธ ใยนิรัตน์ โทรศัพท์ 02-326-9015
4. การขออนุญาตใช้บริเวณหรืออาคารของสถานศึกษา
ส่วนราชการหรือเอกชน อาจขออนุญาตใช้บริเวณหรือสถานที่ของสถานศึกษาสังกัดกรุงเทพมหานคร หรือสถานที่ประกอบกิจกรรมที่เป็นงานมงคล งานการกุศล หรือกิจกรรมอื่นใด ที่ไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นการเฉพาะกิจชั่วระยะได้ และกิจกรรมนั้นต้องไม่เป็นการละเมิดต่อสิทธิหรือรบกวนต่อความเป็นอยู่โดยปกติสุขของประชาชน และต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริเวณหรืออาคารสถานที่ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งนี้ ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อหัวหน้าสถานศึกษานั้น ๆ เพื่อพิจารณาเสนอขอต่อผู้มีอำนาจอนุญาต โดยมีค่าใช้จ่ายตามระเบียบกรุงเทพมหานคร
หลักฐานที่ใช้
1. บัตรประจำตัวผู้ขอ หรือหนังสือของส่วนราชการแล้วแต่กรณี
2. สำเนาทะเบียนบ้าน
ติดต่อสอบถาม คุณพิมพ์ณพัทธ ใยนิรัตน์ โทรศัพท์ 02-326-9015