#คลองสามวา >>> ตรวจสอบพื้นที่รกร้าง เกิดเพลิงไหม้หญ้า วัชพืช เร่งติดตามเจ้าของที่ปรับปรุงพื้นที่ ขจัดความสกปรก ความรกร้าง เข้าข่ายความผิดมาตรา 8 พรบ.รักษาความความสะอาดฯ

วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2567
image

#คลองสามวา >>> ตรวจสอบพื้นที่รกร้าง เกิดเพลิงไหม้หญ้า วัชพืช เร่งติดตามเจ้าของที่ปรับปรุงพื้นที่ ขจัดความสกปรก ความรกร้าง เข้าข่ายความผิดมาตรา 8 พรบ.รักษาความความสะอาดฯ 

(25 เม.ย.67) เวลา 11.00 น. นายสมหวัง ชัยประกายวรรณ์ ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา พร้อมด้วยนายวรพงศ์ ไชยมีสุข หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ นายสมศักดิ์ หาญยุทธ หัวหน้าฝ่ายรักษาความสะอาดและสวนสาธารณะ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา ลงตรวจสอบพื้นที่ เหตุไฟไหม้หญ้าพื้นที่รกร้าง บริเวณระหว่างหมู่บ้านปัญญาอินทรา P7 กับหมู่บ้านไพรเวท รามอินทรา (โดยเข้าทางซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 3) (พิกัด 13.850605, 100.703448) แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร สร้างผลกระทบและความเดือดร้อนแก่ประชาชนในพื้นที่ เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินแก่พี่น้องประชาชนในละแวกใกล้เคียง

ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าเป็นพื้นที่เอกชน รกร้าง มีวัชพืชปกคลุม ถูกรายล้อมด้วยกำแพงหมู่บ้าน โดยสามารถเข้า-ออก ได้ทางซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 3 สุดทาง โดยทางฝ่ายเทศกิจ จะดำเนินการสืบค้นเจ้าของที่ดิน เพื่อออกหนังสือขอให้ดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง และดูแลที่ดินแก่เจ้าของที่ดินต่อไป

ทั้งนี้ สำหรับเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดิน ปล่อยปละละเลยให้ต้นไม้ หรือธัญพืชที่ตนปลูกไว้หรือที่ขึ้นเองในที่ดินของตนให้เหี่ยวแห้งหรือมีสภาพรกรุงรัง หรือปล่อยปละละเลยให้มีการทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในบริเวณที่ดินของตน โดยมีสภาพที่ประชาชนอาจเห็นได้จากที่สาธารณะ เจ้าของที่ดินมีความผิด ตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท

อีกทั้ง สำหรับผู้ที่ลักลอบทิ้งขยะ เศษวัสดุ สิ่งปฏิกูลมูลฝอย เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท และสำหรับเจ้าของที่ดิน ที่ปล่อยปละละเลยให้มีสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในที่ดินของตนในสภาพที่ประชาชนอาจเห็นได้จากที่สาธารณะ ก็เข้าข่ายความผิดตามข้างต้นเช่นกัน 

และสำหรับผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้เป็นของตัวเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 ต้องระวางโทษ จําคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรืออาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตราอื่นๆ ซึ่งมีโทษที่หนักกว่าต่อไป