(23 มี.ค. 67) นายนพ ชูสอน ผู้อำนวยการเขตคันนายาว นางชอ้อน วีระสุนทร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เขต ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชุมชน พร้อมเปิดเวทีพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับผู้นำและผู้แทนในชุมชน ตลอดจนรับฟังปัญหาและร่วมหาแนวทางการดำเนินการแก้ไขปัญหาจากประชาชน ณ ชุมชนหมู่บ้าน บก.ทหารสูงสุด และชุมชนหมู่บ้านวาเลนไทน์ แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ 
โดยมีประเด็นปัญหาที่ได้รับแจ้งและขอเสนอแนะจากประชาชน ดังนี้

- ชุมชนหมู่บ้าน บก.ทหารสูงสุด : ขอให้ดำเนินการกับต้นไม้ที่ยื่นล้ำถนน , พิจารณาเพิ่มกระจกโค้งบริเวณทางแยก , เพิ่มป้ายซอย/ป้ายทางออก และขอถังรองรับขยะมูลฝอยเพิ่ม รวมถึงเสนอให้มีถังขยะแบบแยกประเภท
- ชุมชนหมู่บ้านวาเลนไทน์ : ขอให้ดำเนินการกับต้นไม้ที่ยื่นล้ำถนน/พาดสายไฟฟ้า , ร้านรับซื้อของเก่าภายในหมู่บ้านวางของล้ำถนน/จอดรถกีดขวาง/เลี้ยงแมวจำนวนหลายตัว/ส่งกลิ่นรบกวน , เสนอให้มีจุดพักขยะภายในชุมชนเพื่อสะดวกต่อการนำขยะมารวมเป็นจุดเดียวและง่ายต่อการจัดเก็บ และหามาตรการป้องกันบุคคลภายนอกที่มักจะเข้ามาในชุมชนยามวิกาลซึ่งอาจสร้างปัญหาความเดือดร้อนแก่ผู้พักอาศัยในชุมชน
ในการนี้ ยังได้จัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์การคัดแยกขยะก่อนนำไปทิ้งตาม “โครงการไม่เทรวม” การลดการใช้ปริมาณพลาสติกและโฟม และเชิญชวนเข้าร่วมกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour 2024)” โดยให้ปิดไฟที่ไม่จำเป็นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 20.30 - 21.30 น. (โดยฝ่ายรักษาความสะอาดฯ) รณรงค์การกำจัดยุงลายป้องกันโรคไข้เลือดออก การป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และประชาสัมพันธ์การให้บริการผ่าตัดทำหมันสุนัข-แมว บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตามโครงการเร่งรัดกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ณ วัดคลองครุ (ปัฐวิกรณ์) (โดยฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯ) และประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ภัยอันตรายของยาเสพติด (โดยฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ)

จากนั้น ผู้อำนวยการเขตคันนายาว พร้อมคณะ ได้เดินเท้าพบปะชาวชุมชน เพื่อรับฟังปัญหา ความต้องการหรือข้อเสนอแนะ พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่พัฒนาปรับภูมิทัศน์ชุมชน ตลอดจนเข้าสำรวจบริเวณที่เป็นปัญหาตามที่ได้รับแจ้ง เพื่อเตรียมดำเนินการแก้ไขปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ต่อไป