การให้บริการตามอำนาจหน้าที่

          ฝ่ายรายได้ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินการจัดเก็บรายได้ของกรุงเทพมหานคร (ได้แก่ ภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ค่าเช่า ค่าบริการ และ รายได้อื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย) การสืบทรัพย์ผู้ค้างชำระภาษีที่อยู่ในพื้นที่เขต การดำเนินคดีแก่ผู้ค้างชำระภาษี การจัดทำทะเบียนควบคุมการจัดเก็บรายได้ การจัดทำสถิติการจัดเก็บรายได้แต่ละประเภท การรายงานการจัดเก็บภาษี และหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมาย
1. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน
สามารถยื่นแบบเพื่อชำระภาษีได้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ของทุกปี
ทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษี
ประเภททรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีได้แก่ อาคาร โรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง รวมถึงบริเวณที่ต่อเนื่อง โดยเจ้าของกรรมสิทธิ์ได้นำทรัพย์สินดังกล่าวออกหาผลประโยชน์ตอบแทน หรือให้ผู้อื่นนำไปใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ เช่น ให้เช่า ใช้เป็นที่ค้าขายใช้ประกอบอุตสาหกรรม รวมทั้งให้ญาติหรือผู้อื่นอยู่อาศัย หรือใช้ประกอบกิจการอื่นๆ เพื่อหารายได้
ระยะเวลาการยื่นแบบชำระภาษี
ให้เจ้าของโรงเรือนยื่นแบบแจ้งรายการเพื่อเสียภาษีโรงเรือนและที่ดิน (ภ.ร.ด.2) ณ ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตซึ่งโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นตั้งอยู่ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี และชำระภาษีภายใน 30 วัน นับถัดจากวันรับแจ้งการประเมิน (ภ.ร.ด.8)
หลักฐานที่ต้องใช้
1. บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้าน
2. หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ในโรงเรือนและที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน ใบอนุญาตปลูกสร้าง หนังสือสัญญาซื้อขายหรือสัญญาเช่า

3. หลักฐานการประกอบกิจการ เช่น ใบทะเบียนการค้า ทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือใบอนุญาตประกอบกิจการของฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล
4. หนังสือรับรองนิติบุคคลและงบแสดงฐานะการเงิน (กรณีนิติบุคคล)
5. ใบมอบอำนาจ กรณีให้ผู้อื่นมากระทำการแทน
6. อื่นๆ สอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายรายได้
อัตราภาษีโรงเรือนและที่ดิน
จัดเก็บร้อยละ 12.5 ของค่ารายปี

2. ภาษีบำรุงท้องที่
ยื่นแบบภายในวันที่ 31 มกราคม ของปีแรกที่มีการตีราคาปานกลางที่ดิน และชำระภาษีได้ถึงวันที่ 30 เมษายน ของทุกปี
ประเภทที่ดินที่ต้องเสียภาษี
เจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินรายเก่าที่ได้รับกรรมสิทธิ์ใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ของปีใดมีหน้าที่ยื่นเสียภาษีบำรุงท้องที่สำหรับปีนั้นๆ ที่ดินได้รับการลดหย่อน ยกเว้นหรือลดภาษีบำรุงท้องที่ให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด
ระยะเวลาการยื่นแบบและการชำระภาษี
ให้เจ้าของที่ดินชำระภาษีในเดือนเมษายนของทุกปี ยกเว้นในปีที่มีการตีราคาปานกลางที่ดินใหม่ ให้ยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) ภายในเดือนมกราคม และชำระภาษีภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน ผู้ใดเป็นเจ้าของที่ดินใหม่ หรือเจ้าของที่ดินเดิมเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ในที่ดิน หรือเปลี่ยนแปลงจำนวนเนื้อที่ดิน ต้องยื่นแบบฯ หรือแจ้งการเปลี่ยนแปลงต่อเจ้าพนักงานประเมินภายใน 30 วัน
หลักฐานที่ต้องใช้
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้าน
2. สำเนาโฉนดที่ดิน และหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดิน หรือหนังสือสัญญาอย่างอื่น
3. สำเนาใบเสร็จรับเงินภาษีครั้งสุดท้าย (ถ้ามี)
4. ใบมอบอำนาจ กรณีให้ผู้อื่นมากระทำการแทน
5. อื่นๆ สอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายรายได้
อัตราภาษีบำรุงท้องที่
จัดเก็บตามประกาศราคาปานกลางที่ดินของกรุงเทพมหานคร

3. ภาษีป้าย
ยื่นแบบเพื่อชำระภาษีได้ถึงวันที่ 31 มีนาคม ของทุกปี
ประเภทป้ายที่ต้องเสียภาษี
ป้ายแสดงชื่อ ยี่ห้อ หรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้าหรือประกอบกิจการอื่นเพื่อหารายได้ หรือโฆษณาการค้าหรือกิจการอื่น เพื่อหารายได้ไม่ว่าแสดงหรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใดๆ ด้วยอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียน แกะสลัก จารึก หรือทำให้ปรากฏขึ้นด้วยวิธีอื่น
ระยะเวลาการยื่นแบบและชำระภาษี
ให้เจ้าของป้ายยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย (ภ.ป.1) เพื่อชำระภาษีที่ฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตที่ป้ายนั้นติดตั้งอยู่ ภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ป้ายที่ติดตั้งใหม่หรือมีการเปลี่ยนแปลง หลักจากเดือนมีนาคมให้ยื่นแบบภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ติดตั้งป้าย
หลักฐานที่ต้องใช้
1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
2. สำเนาทะเบียนการค้าหรือทะเบียนพาณิชย์
3. สำเนาใบอนุญาตติดตั้งป้ายหรือใบเสร็จรับเงินจากร้านทำป้าย (ถ้ามี)
4. หนังสือรับรองนิติบุคคล (กรณีนิติบุคคล)
5. ใบมอบอำนาจ กรณีให้ผู้อื่นมากระทำการแทน
6. อื่นๆ สอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายรายได้
อัตราภาษีป้าย
1. ป้ายที่มีอักษรไทยล้วน ให้คิดอัตรา 3 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร
2. ป้ายที่มีอักษรไทยปนกับอักษรภาษาต่างประเทศ หรือปนกับภาพ และหรือเครื่องหมายอื่น ให้คิดอัตรา 20 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร
3. ป้ายดังต่อไปนี้ให้คิดอัตรา 40 บาท ต่อ 500 ตารางเซนติเมตร
- ป้ายที่ไม่มีอักษรไทย ไม่ว่าจะมีภาพหรือเครื่องหมายใดๆ หรือไม่
- ป้ายที่มีอักษรไทยบางส่วน หรือทั้งหมด อยู่ใต้หรือต่ำกว่าอักษรต่างประเทศ
4. ป้ายที่เปลี่ยนแปลงแก้ไขพื้นที่ป้าย ข้อความ หรือภาพบางส่วนในป้ายที่เสียภาษีป้ายแล้ว ทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น ให้คิดอัตราตาม (1) (2) และ (3) แล้วแต่กรณี และให้เสียเฉพาะจำนวนเงินภาษีที่เพิ่มขึ้น
5. ป้ายตาม (1) (2) และ (3) เมื่อคำนวณพื้นที่ของป้ายแล้ว ถ้ามีอัตราที่ต้องเสียภาษีต่ำกว่าป้ายละ 200 บาท ให้เสียภาษีป้ายละ 200 บาท
ช่องทางการชำระภาษี
เมื่อท่านได้รับใบแจ้งการประเมินภาษีจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายรายได้ของกรุงเทพมหานครแล้วท่านสามารถเลือกชำระเงินภาษีได้ที่
1. ที่ฝ่ายการคลัง สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต กองการเงินสำนักการคลัง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(เสาชิงช้า) โดยสามารถชำระค่าภาษีด้วยเงินสด เช็ค หรือธนาณัติ ชำระผ่านเครื่องรูดบัตรอัตโนมัติ (Electronic Data Capture : EDC)
2. กรณีชำระภาษีภายในกำหนด สามารถชำระผ่านธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงการชำระภาษีผ่านตู้ ATM และทาง Internet
3. ชำระภาษีเกินกำหนดและมีเงินเพิ่ม ชำระได้ที่สำนักงานเขตทุกเขต หรือที่กองการเงิน สำนักการคลัง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร
กรณีชำระด้วยเช็ค ต้องเป็นเช็คเฉพาะเคลียร์ริ่งในเขตกรุงเทพมหานครและต้องชำระก่อนเวลา 12.00 น. ด้านหลังเช็คให้ระบุชื่อ นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียภาษี ทั้งนี้ การชำระเงินจะสมบูรณ์ต่อเมื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คแล้ว
4. ชำระด้วยบัตรเครดิตของทุกธนาคาร
5. หากชำระภาษีเกินกำหนดและมีเงินเพิ่มให้ชำระได้ที่สำนักงานเขตทุกเขต หรือที่จุดบริการด่วนมหานคร ศาลาว่าการกรุงเทพมหา

>>ดาวน์โหลดคู่มือติดต่อราชการ