การให้บริการตามอำนาจหน้าที่

          สัสดีเขต มีหน้าที่ควบคุม กำกับ ดูแล และประสานงานในกิจการสัสดีทั้งปวง ซึ่งได้กำหนดไว้ในกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง แบบธรรมเนียมและบันทึกข้อตกลงที่เกี่ยวข้องในเขตพื้นที่ควบคุมทหารกองเกิน ทหารกองหนุนในเขตพื้นที่ ดำเนินการในกิจการทั้งปวงที่เกี่ยวข้องในเรื่องการเตรียมพล บันทึก รายงานตรวจสอบ โต้ตอบ และชี้แจงปัญหาในกิจการสัสดีรวมทั้งงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับราชการทหารตามที่ได้รับมอบหมาย รวบรวมเก็บข้อมูล สถิติและสภาพกองเกิน ทหารกองหนุนในเขตพื้นที่ เพื่อนำมาใช้ในการเข้ารับราชการทหารและการเตรียมพล สอดส่องดูแลความความประพฤติทหารกองประจำการนอกหน่วยทหารในเขตพื้นที่และ ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในการจับกุมทหารกองประจำการที่ขาดหนี ราชการส่งหน่วยต้นสังกัด หน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงานสัสดี และตามที่กำหนดไว้ในอัตราการจัดและยุทโธปกรณ์ของหน่วย ตลอดจนกิจการอันเกี่ยวกับกำลังคนในเขตพื้นที่ ตามที่ผู้บังคับบัญชาหรือผู้ที่ได้รับมอบอำนาจให้บังคับบัญชาจะได้มอบหมาย ให้
1. การลงบัญชีทหารกองเกิน
หลักเกณฑ์
ชายที่มีสัญชาติไทยและมีอายุย่างเข้า 18 ปี (17 ปีบริบูรณ์) ให้ไปลงบัญชีทหารตามภูมิลำเนาของบิดา เว้นแต่บิดามารดาไม่ได้จดทะเบียนสมรส,บิดาไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตรหรือ บิดาถึงแก่กรรม ให้ลงบัญชีทหารตามภูมิลำเนามารดา ถ้าบิดา/มารดาถึงแก่กรรม ให้ลงตามภูมิลำเนาของผู้ปกครอง ถ้ามีการจดบุตรบุญธรรม ให้ลงบัญชีทหารตามภูมิลำเนาของบิดา/มารดาบุญธรรม
หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
1. สูติบัตร
2. บัตรประจำตัวประชาชน
3. สำเนาทะเบียนบ้านของตนเองและบิดามารดา (ฉบับจริง)
4. หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว/ชื่อสกุลของตนเองหรือของบิดามารดา (ถ้ามี)
5. ใบมรณบัตร (ถ้ามี)
6. กรณีบิดา/มารดา เป็นคนต่างด้าว จะต้องนำใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวและใบอนุญาตทำงานไปแสดงด้วย
7. หลักฐานการรับบุตรบุญธรรม (ถ้ามี)
บทกำหนดโทษ
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ไปแสดงตนขอลงบัญชีทหารกองเกินภายในเวลาที่กำหนด ที่สำนักงานเขตได้ประกาศไว้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 300 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

2. การขอรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร
ทหารกองเกินที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินแล้ว เมื่ออายุย่างเข้า 21 ปี (อายุ 20 ปีบริบูรณ์) ใน พ.ศ.ใด ต้องไปแสดงตน เพื่อขอรับหมายเรียก ที่สำนักงานเขตท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหาร ภายใน พ.ศ. นั้น
หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ใบสำคัญแบบ สด.9
การรับหมายเรียกแทนต้องมีเหตุอันควร เช่น ป่วยหนัก ไปต่างประเทศ ต้องโทษ และใกล้พ้นกำหนดการรับหมายให้นำบัตรประจำตัวผู้แทน พร้อมหนังสือมอบฉันทะให้ผู้แทนนำมาแสดง
บทกำหนดโทษ
ผู้ฝ่าฝืนไม่ไปแสดงตนของลงบัญชีทหารกองเกินภายในเขตประกาศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 300 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. การขอผ่อนผันการเข้ารับราชการทหาร
การขอผ่อนผันมี 3 กรณี
3.1 การขอผ่อนผันกรณีไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ
หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
เอกสารต้นฉบับพร้อมสำเนาจำนวน 2 ฉบับ
1. ใบสำคัญ (แบบ สด.9)
2. หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35)
3. หนังสือรับรองของสถานศึกษาพร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย
4. หนังสือรับรองของสถานทูตหรือสถานกงสุลไทย ณ ประเทศที่ไปศึกษา
5. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้งขอผ่อนผัน
6. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้านของผู้แจ้งและผู้ขอผ่อนผัน
3.2 การขอผ่อนผันเลี้ยงดูบิดาหรือบุตร ซึ้งไร้ความสามารถ หรือพิการ ทุพพลภาพ หรือชรา จนหาเลี้ยงชีพไม่ได้และไม่มีผู้อื่นเลี้ยงดู
หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
1. ใบสำคัญแบบ สด.9
2. หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร แบบ สด.35
3. บัตรประจำตัวประชาชน
4. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน พร้อมสำเนา 2 ฉบับ
5. ตัวบุคคลและพยานบุคคล
3.3 การขอผ่อนผันระหว่างการศึกษา การเสนอเรื่องผ่อนผันระหว่างการศึกษาเสนอขอครั้งเดียว จะรับสิทธิการผ่อนผันจนสำเร็จการศึกษา หรือพ้นจากสภาพนักเรียน นักศึกษา และมีอายุไม่เกิน
· ระดับ ม.ปลาย หรือเทียบเท่า อายุไม่เกิน 22 ปีบริบูรณ์
· ระดับอนุปริญญา ปริญญาตรีและปริญญาโท อายุไม่เกิน 26 ปีบริบูรณ์ ยกเว้นนักศึกษาแพทย์ผ่อนผันให้ระหว่างปฏิบัติการ เพื่อรับรองใบประกอบโรคศิลปะอีก 1 ปี
สถานศึกษาเสนอชื่อเพื่อให้ผู้ง่าราชการจังหวัดภูมิลำเนาทหารของนักศึกษาภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่ถูกเรียก

4. การเข้ารับการตรวจเลือก
เมื่อได้รับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร จากสำนักงานเขตไปเรียบร้อยแล้วจะต้องไปแสดงตนเข้ารับการตรวจเลือก ตามวันเวลาและสถานที่ที่ระบุไว้ในหมายเรียก (แบบ สด.35)
หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ใบสำคัญ (แบบ สด.9)
3. หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (แบบ สด.35)
4. หลักฐานการศึกษา (ถ้ามี)
บทลงโทษ
บุคคลใดหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนไม่มาให้คณะกรรมการตรวจเลือก ทำการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ตามหมายเรียกของผู้อำนวยการเขตหรือมาแต่ไม่เข้ารับการตรวจเลือก หรือไม่อยู่จนกว่าการตรวจเลือกแล้วเสร็จ หรือหลีกเลี่ยง หรือขัดขืนด้วยประการใดๆ เพื่อจะไม่เข้ารับราชการทหารกองประจำการตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี

5. การย้ายภูมิลำเนา
ทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนที่ได้ลงบัญชีของทหารกองเกินไว้แล้ว มีความประสงค์จะไปอยู่ต่างท้องที่ในอำเภอเดียวกัน หรือต่างอำเภอ ต่างจังหวัดเกิน 30 วัน ให้แจ้งต่อนายทะเบียนท้องที่ที่ตอนเข้าไปอยู่ ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ย้ายเข้าไปอยู่ในท้องที่นั้นๆ
หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ใบสำคัญ (แบบ สด.9) หรือหนังสือสำคัญ (แบบ สด.8)ฃ
3. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน พร้อมสำเนา 2 ฉบับ
4. หลักฐานการเสียภาษีอากร หรือหลักฐานการบรรจุเข้าทำงาน หรือหนังสือรับรองการเป็นพนักงานบริษัทห้างร้านต่างๆ หรือหลักฐานการบรรจุเข้ารับราชการในท้องที่ที่ขอย้าย
5. ยื่นคำร้องไม่เกินเดือนธันวาคม
บทกำหนดโทษ
ทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนผู้ใดไม่ปฏิบัติ ต้องระวางโทษไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 200 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

6. การขอรับหนังสือสำคัญทหารกองหนุนแบบ สด.8
6.1 ทหารกองประจำการ เมื่อได้รับราชการครบกำหนดแล้วจะปลดเป็นทหารกองหนุน
หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
1. ใบลาแบบ 2 (ถ้ามี)
2. หลักฐานต่างๆ ที่หน่วยงานสังกัดออกให้
6.2 ผู้สำเร็จการศึกษาวิชาทหาร ชั้นปีที่ 3 (จบ รด. ปี 3) เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะขึ้นทะเบียนและปลดเป็นทหารกองหนุน
หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
1. หนังสือรับรองวิทยฐานะเป็นผู้สำเร็จการศึกษาวิชาทหาร ชั้นปีที่ 3

2. ได้ขึ้นทะเบียนและนำปลด (ได้รับเลขเครื่องหมายแล้ว)

7. การขอใบสำคัญแบบ สด.9, ใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ (สด.43) และหนังสือสำคัญแบบ สด.8 แทนฉบับที่ชำรุด หรือสูญหาย
ทหารกองเกินหรือทหารกองหนุนที่ได้ทำใบสำคัญแบบ สด.9 , ใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ สด.43 สมุดประจำตัวแบบ สด.8 ชำรุดหรือสูญหาย ต้องไปแจ้งต่อเขตท้องที่ที่เป็นภูมิลำเนาทหารด้วยตัวเอง เพื่อขอรับใบสำคัญแบบ สด.9, ใบรับรองผลการตรวจเลือกฯ สด.43 หนังสือสำคัญแบบ สด.8 ใหม่
หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
1. บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมสำเนา 2 ฉบับ
2. กรณีขอหนังสือสำคัญ (แบบ สด.8) ต้องนำรูปถ่ายหน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตา ขนาด 3*4 เซนติเมตร 3 รูป
3. สำเนาใบรับแจ้งความจากสถานีตำรวจท้องที่ที่ได้ทำใบสำคัญหรือหนังสือสำคัญสูญหาย
4. ค่าธรรมเนียม 1 บาท

8. การเข้ารับราชการในการเรียกพล
ทหารกองหนุนประเภทที่ 1 คือ ทหารที่ปลดจากกองประจำการ หรือสำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ 3 มีหน้าที่เข้ารับราชการในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหารฯ เป็นการเตรียมให้กำลังพลมีประสิทธิภาพพร้อมรบอยู่ตลอดเวลา
บทกำหนดโทษ
ทหารกองหนุนที่หลีกเลี่ยงขัดขืนไม่เข้ารับราชการในการเรียกพล มีความผิดต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 4 ปี