ติดตามแก้ไขปัญหาลักลอบทิ้งขยะ พื้นที่เอกชน เร่งประสานเจ้าของที่ ปรับปรุงพื้นที่ สร้างแนวกั้นรั้วมิดชิด ป้องกันการลักลอบทิ้ง-เผา

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2567
image

ติดตามแก้ไขปัญหาลักลอบทิ้งขยะ พื้นที่เอกชน เร่งประสานเจ้าของที่ ปรับปรุงพื้นที่ สร้างแนวกั้นรั้วมิดชิด ป้องกันการลักลอบทิ้ง-เผา 

(13 พ.ค.67) นายสมหวัง ชัยประกายวรรณ์ ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา มอบหมายให้นายวรพงศ์ ไชยมีสุข หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ จัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ ลงพื้นที่ติดตามแก้ไขปัญหาลักลอบทิ้งขยะ พื้นเอกชน บริเวณซอยแบนชะโด 5 แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร

โดยได้ดำเนินการกวดขัน ติดตั้งป้ายประกาศห้ามทิ้ง พร้อมสร้างแนวรั้วเขตทาง พื้นที่เอกชนเป็นการชั่วคราว ระหว่างประสานเจ้าของที่ดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ต่อไป

ทั้งนี้ ทางสำนักงานเขตคลองสามวา โดยฝ่ายรายได้ และฝ่ายเทศกิจ ได้ประสานเจ้าของที่ เพื่อเข้าให้ข้อมูลและให้ดำเนินการแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาพื้นที่ พร้อมกำจัดวัชพืช ทำแนวกันไฟ รวมถึงการจัดทำแนวรั้วปิดกั้นรอบพื้นที่ให้มิดชิด เพื่อป้องกันการลักลอบทิ้งซ้ำ และป้องกันการลักลอบเผาขยะ เศษวัสดุต่างๆ 

สำหรับเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดิน ปล่อยปละละเลยให้ต้นไม้ หรือธัญพืชที่ตนปลูกไว้หรือที่ขึ้นเองในที่ดินของตนให้เหี่ยวแห้งหรือมีสภาพรกรุงรัง หรือปล่อยปละละเลยให้มีการทิ้งสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในบริเวณที่ดินของตน โดยมีสภาพที่ประชาชนอาจเห็นได้จากที่สาธารณะ เจ้าของที่ดินมีความผิด ตามมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท

อีกทั้ง สำหรับผู้ที่ลักลอบทิ้งขยะ เศษวัสดุ สิ่งปฏิกูล มูลฝอย เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท และสำหรับเจ้าของที่ดิน ที่ปล่อยปละละเลยให้มีสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยในที่ดินของตนในสภาพที่ประชาชนอาจเห็นได้จากที่สาธารณะ ก็เข้าข่ายความผิดตามข้างต้นเช่นกัน 

และสำหรับผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้แก่วัตถุใดๆ แม้เป็นของตัวเอง จนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 ต้องระวางโทษ จําคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรืออาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตราอื่นๆ ซึ่งมีโทษที่หนักกว่าต่อไป