การฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ในหญิงอายุ 11 - 20 ปี

วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
image

กระทรวงสาธารณสุข เผยคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เห็นชอบแผนเร่งรัดการฉีดวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก ในหญิงอายุ 11 - 20 ปี
.
โดยมีเป้าหมายฉีดวัคซีน 1 ล้านโดส ในระยะ 100 วัน เนื่องจากโรคมะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบในผู้หญิงไทยสูงเป็น “อันดับ 2” รองจากมะเร็งเต้านม
.
ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 6,500 รายต่อปี และมีผู้เสียชีวิต 2,000 รายต่อปี สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV ผ่านการสัมผัสโดยตรง หรือการมีเพศสัมพันธ์
.
ซึ่งสายพันธุ์ที่พบบ่อย คือ สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ที่เป็นต้นเหตุของมะเร็งปากมดลูกมากถึง 70%
.
ทั้งนี้ วัคซีน HPV สามารถป้องกันได้ดี “หากฉีดตั้งแต่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์” พบว่ามีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อได้ถึง 90% ส่งผลให้ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งปากมดลูกใน 10 - 20 ปีข้างหน้าได้
.
สำหรับแผนการฉีดวัคซีน HPV ในระยะ 100 วันแรกนั้น:

• สำรวจจำนวนกลุ่มเป้าหมาย เพื่อจัดเตรียมวัคซีน

• พัฒนาระบบฐานข้อมูล MOPH IC

• ประสานและลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อม:
- กระทรวงศึกษาธิการ
- กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
- กระทรวงแรงงาน
- กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
- กรุงเทพมหานคร

• จัดแคมเปญรณรงค์คิกออฟ

• จัดบริการฉีดนำร่องเขตละ 1 จังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ

• ช่วงเดือน พ.ย. – ธ.ค. 66 เร่งรัดให้บริการฉีดวัคซีน ในโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชนคู่สัญญา และหน่วยบริการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด หรือกรุงเทพฯ กำหนดไว้

• แบ่งการฉีดเป็น 2 รูปแบบ:
- กลุ่มนักเรียน > ฉีดที่สถานศึกษาหลังเปิดเทอม
- กลุ่มที่อยู่นอกระบบการศึกษา รวมถึงอายุ 18-20 ปี > ฉีดที่หน่วยบริการใกล้บ้าน