.jpg)
วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2564
จตุจักรควบคุมกำกับมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 ในแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างในพื้นที่
จตุจักรควบคุมกำกับมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 ในแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้างในพื้นที่
วันที่ 12 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น. นายอาฤทธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ได้มอบหมายให้นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตจตุจักรและนางอรศรี ผลถาวร หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ตรวจติดตามควบคุมกำกับมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้าง บริเวณซอยพหลโยธิน 26 แขวงจอมพล เขตจตุจักร เนื่องจากพบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในกลุ่มคนงานก่อสร้าง โดยขณะนี้ทางบริษัทได้มีการแยกผู้ติดเชื้อออกจากแคมป์คนงานโดยส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้สำนักงานเขตจตุจักร ได้มีคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อให้แยกกักผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและห้ามเคลื่อนย้ายคนงานออกจากสถานที่กักตัว รวมทั้งห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณแคมป์หรือสถานที่ ที่กำหนดให้เป็นบริเวณควบคุมโรคอีกทั้งกำชับให้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในแคมป์คนงานให้ถูกสุขลักษณะและทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่างๆตามหลักสุขาภิบาลกรณีคนงานที่ไม่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงสามารถไปทำงานได้ปกติโดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมคนงานระหว่างเดินทางไปกลับแคมป์ที่พักและไซด์ก่อสร้างตลอดจนห้ามมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนจนกว่าผู้ป่วยคนสุดท้ายจะออกจากโรงพยาบาลหรือคุมไว้สังเกตอาการจนครบ 14 วัน
วันที่ 12 มิถุนายน 2564 เวลา 16.00 น. นายอาฤทธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ได้มอบหมายให้นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตจตุจักรและนางอรศรี ผลถาวร หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล เจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ตรวจติดตามควบคุมกำกับมาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในแคมป์ที่พักคนงานก่อสร้าง บริเวณซอยพหลโยธิน 26 แขวงจอมพล เขตจตุจักร เนื่องจากพบว่ามีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในกลุ่มคนงานก่อสร้าง โดยขณะนี้ทางบริษัทได้มีการแยกผู้ติดเชื้อออกจากแคมป์คนงานโดยส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้สำนักงานเขตจตุจักร ได้มีคำสั่งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อให้แยกกักผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและห้ามเคลื่อนย้ายคนงานออกจากสถานที่กักตัว รวมทั้งห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณแคมป์หรือสถานที่ ที่กำหนดให้เป็นบริเวณควบคุมโรคอีกทั้งกำชับให้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในแคมป์คนงานให้ถูกสุขลักษณะและทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสต่างๆตามหลักสุขาภิบาลกรณีคนงานที่ไม่เป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงสามารถไปทำงานได้ปกติโดยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมคนงานระหว่างเดินทางไปกลับแคมป์ที่พักและไซด์ก่อสร้างตลอดจนห้ามมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนจนกว่าผู้ป่วยคนสุดท้ายจะออกจากโรงพยาบาลหรือคุมไว้สังเกตอาการจนครบ 14 วัน
