มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการดำเนินการพัฒนาชุมชน และสังคมทั้งทางด้านกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม อนามัย และคุณภาพชีวิต เช่น การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน การเสริมสร้างศักยภาพของผู้นำชุมชน องค์กรชุมชนและเครือข่ายชุมชน การพัฒนาสภาพแวดล้อมและที่อยู่อาศัย การจัดให้มีองค์กรประชาชนในรูปแบบคณะกรรมการชุมชน การส่งเสริมสนับสนุนและจัดตั้งสหกรณ์ชุมชน กองทุนพัฒนาชุมชน กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง การปรับปรุงชุมชน การรื้อย้ายชุน การประสานงานกับหน่วยงานอื่นเพื่อจัดหาที่อยู่ชั่วคราว การส่งเสริมอาชีพ การจัดหาแหล่งจำหน่ายผลผลิต การดำเนินการเกี่ยวกับศูนย์ฝึกอาชีพ การจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมการบริหารเงินออมครอบครัว การดำเนินการเกี่ยวกับยาเสพติด การสงเคราะห์สตรี ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบภัย การสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็ก การควบคุมดูแลการดำเนินงานสถานรับเลี้ยงเด็กและสถานสงเคราะห์ ศูนย์เยาวชน ห้องสมุด บ้านหนังสือ ศูนย์กีฬา และลานกีฬา การดำเนินการเกี่ยวกับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและคนพิการ การให้บริการ และจัดกิจกรรมนันทนาการด้านดนตรี กีฬา ห้องสมุด ฯลฯ งานสภาเยาวชนเขต การอนุรักษ์ส่งเสริม เผยแพร่ ฟื้นฟู บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น งานสภาวัฒนธรรมเขต งานพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว การสนับสนุนและประสานการดำเนินงานร่วมกับเครือข่ายด้านวัฒนธรรม นันทนาการและการท่องเที่ยว การให้คำปรึกษาแนะนำทางวิชาการเกษตรและสภาพแวดล้อมเพื่อการเกษตร การดำเนินการเกี่ยวกับศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร และหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องหรือได้รับมอบหมาย 

 



1.สวัสดิการผู้พิการ 

การลงทะเบียนรับเงินเบี้ยความพิการ

** ยื่นลงทะเบียนรับเงินเบี้ยความพิการเดือนนี้ มีสิทธิรับเงินเบี้ยความพิการในเดือนถัดไป **
** การจ่ายเงินเบี้ยความพิการของกรุงเทพมหานครผ่านระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-Social Welfare) โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินภายในวันที่ 10 ของเดือน กรณีวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการจะเลื่อนจ่ายเงินเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนวันหยุด

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเบี้ยความพิการ  

  • มีสัญชาติไทย
  • มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของพื้นที่เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
  • มีบัตรประจำตัวผู้พิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ(ที่ไม่หมดอายุ)
  • ต้องไม่เป็นบุคคลซึ่งอยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ของรัฐ

หลักฐานการยื่นรับเบี้ยความพิการกรณียื่นด้วยตนเอง 

1. บัตรประจำตัวคนพิการ (ที่ไม่หมดอายุ) 
2. ทะเบียนบ้าน 
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หรือเผื่อเรียกของคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามกฎหมาย

หลักฐานการยื่นรับเบี้ยความพิการกรณียื่นคำขอแทน  

1. บัตรประจำตัวคนพิการฉบับจริง (ที่ไม่หมดอายุ) พร้อมสำเนา 
2. ทะเบียนบ้าน 
3. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หรือเผื่อเรียกของคนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการตามกฎหมาย
4. หนังสือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมพยาน 2 คนลงลายมือชื่อ
5. บัตรประจำตัวประชาชนผู้รับมอบอำนาจ
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของพยานทั้ง 2 คน กรณีใช้บัญชีเงินฝากของผู้รับมอบอำนาจ

**** ข้อควรรู้ กรณีคนพิการย้ายภูมิลำเนา

1. กรณีคนพิการย้ายภูมิลำเนาตามทะเบียนไปอยู่สำนักงานเขตท้องที่อื่นของกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตแห่งใหม่จะจ่ายเงินเบี้ยความพิการในเดือนถัดไป โดยที่คนพิการไม่ต้องไปลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเบี้ยความพิการ ณ สำนักงานเขตแห่งใหม่
2. กรณีคนพิการย้ายภูมิลำเนาตามทะเบียนไปอยู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น (ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด) สำนักงานเขตกรุงเทพมหานครจะระงับการจ่ายเงินเบี้ยความพิการในเดือนถัดไป หากคนพิการประสงค์ที่จะรับเบี้ยเงินเบี้ยความพิการต่อเนื่องจะต้องไปยื่นคำขอรับเงินเบี้ยความพิการในท้องที่ที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
 



2.สวัสดิการผู้สูงอายุ

การลงทะเบียนรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 

***** เปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 – พฤศจิกายน 2565 และเดือนมกราคม 2566 – เดือนกันยายน 2566 ********

** การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุของกรุงเทพมหานครผ่านระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม (e-Social Welfare) โดยกรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินภายในวันที่ 10 ของเดือน กรณีวันที่ 10 ตรงกับวันหยุดราชการจะเลื่อนจ่ายเงินเป็นวันทำการสุดท้ายก่อนวันหยุด

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

1. มีสัญชาติไทย
2. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของพื้นที่เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
3. เป็นบุคคลที่จะมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ซึ่งนับอายุจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2567    
   (เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2507) 
4. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ
หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจำ

หลักฐานการยื่นลงทะเบียนผู้สูงอายุ

1. บัตรประจำตัวประชาชน (ที่ไม่หมดอายุ) 
2. ทะเบียนบ้าน 
3. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หรือเผื่อเรียกของผู้สูงอายุ
 (ธนาคารใดก็ได้ หากเป็นบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) จะต้องผูกพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น)

กรณียื่นคำขอแทน  

1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ที่ไม่หมดอายุ)  ของผู้สูงอายุ จำนวน 1 ฉบับ พร้อมฉบับจริง
2. ทะเบียนบ้าน 
3. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หรือเผื่อเรียกของผู้สูงอายุ
 (ธนาคารใดก็ได้ หากเป็นบัญชีพร้อมเพย์ (PromptPay) จะต้องผูกพร้อมเพย์ด้วยหมายเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น)
จำนวน 1 ฉบับ  พร้อมฉบับจริง
4. หนังสือมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมพยาน 2 คน ลงลายมือชื่อเรียบร้อย  จำนวน 1 ฉบับ
6. บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ

***** ข้อควรรู้ กรณีผู้สูงอายุย้ายภูมิลำเนา

1. กรณีผู้สูงอายุย้ายภูมิลำเนาตามทะเบียนไปอยู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น หากประสงค์จะรับเงินเบี้ยยังชีพต่อเนื่อง จะต้องไปยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในท้องที่ที่ตนเองมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านทันที สำนักงานเขตจตุจักรจะจ่ายเงินเบี้ยยังชีพให้ผู้สูงอายุต่อไปจนกว่าจะสิ้นปีงบประมาณ (เดือนกันยายนของปีนั้น)
 


3. การยื่นขอรับเงินสงเคราะห์ในการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี (รายละ 3,000 บาท)

ผู้รับผิดชอบในการจัดการศพเป็นผู้ยื่นคำขอรับเงินสงเคราะห์ในการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี 
ยื่นคำขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุอยู่ในทะเบียนบ้านถึงแก่ความตาย ภายในกำหนด 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ออกใบมรณบัตร

ผู้สูงอายุที่เสียชีวิตต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

1. สัญชาติไทย
2. มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
3. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของพื้นที่เขตจตุจักร
4. ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เว้นแต่ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือยังไม่ได้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ผู้อำนวยการเขต หรือประธานชุมชนเป็นผู้ออกหนังสือรับรองตามแบบรับรองการมีคุณสมบัติตามเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือยังไม่ได้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (แบบ ศผส. 02)


หลักฐานการยื่นขอรับเงินสงเคราะห์ ในการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี

1. สำเนาใบมรณบัตรของผู้สูงอายุ จำนวน 1 ฉบับ พร้อมฉบับจริง
2. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้สูงอายุ 
3. บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐที่มีรูปถ่ายและเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นคำขอ
4. หนังสือรับรองเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดการศพตามประเพณี

 

หมายเหตุ: งบประมาณดังกล่าวได้รับการจัดสรรจาก งบเงินอุดหนุน โครงการสนับสนุนการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณีของกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

 


4.  ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องในการรักษาพยาบาล

อัตราเบิกจ่ายไม่เกินครั้งละ 1,000.-บาทต่อคน และจะช่วยติดต่อกันได้ไม่เกินสามครั้ง
ยื่นคำขอในท้องที่เขตพื้นที่ที่ผู้ยื่นอาศัยอยู่ ไม่เกิน 30 วันนับแต่วันที่ออกใบรับรองแพทย์

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิยื่นคำขอ

1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย
2. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครตามทะเบียนบ้าน
3. ประสบปัญหาความเดือดร้อน ยากจน หรือไร้ที่พึ่ง
4. เป็นผู้ป่วยด้วยโรคที่ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง

หลักฐานการยื่นขอรับการสงเคราะห์

1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ทะเบียนบ้าน
3. ใบรับรองแพทย์ (ที่ออกให้โดยสถานพยาบาลที่เข้ารับการรักษาต่อเนื่อง)  จำนวน 1 ฉบับ
4. แผนที่บ้านพอสังเขป
 



5. เงินสนับสนุนกิจกรรมทางการศึกษา

ยื่นคำขอในท้องที่เขตพื้นที่ที่ผู้ยื่นอาศัยอยู่ ไม่เกิน 30 วันนับแต่วันที่สถานศึกษาออกหนังสือรับรอง
  

 ระดับการศึกษาอัตราเบิกจ่ายทุน (คน/ปี)
 1. อนุบาลและประถมศึกษา ไม่เกิน 3,000 บาท
 2. มัธยมศึกษาตอนต้น ไม่เกิน 3,500 บาท
 3. มัธยมศึกษาตอนปลาย หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ไม่เกิน 4,000 บาท
 4. อนุปริญญา  หรือหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง ไม่เกิน 4,500 บาท
 5. ระดับปริญญาตรี ไม่เกิน 5,000 บาท 


หลักฐานการยื่นขอรับการสงเคราะห์

1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย และอายุไม่เกิน 25 ปี
2. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครตามทะเบียนบ้าน
3. กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาระดับอนุบาลถึงปริญญาตรี และมีหนังสือรับรองของสถานศึกษา
4. บิดาหรือมารดา  หรือผู้ปกครอง ประสบภาวะอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ตาย ทอดทิ้ง สาบสูญ ต้องโทษจำคุก พิการ ทุพพลภาพ ป่วยทางร่างกาย หรือจิตใจ ประสบสาธารณภัยหรือเหตุอื่นจนไม่สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัวตามควรแก่อัตภาพ

หลักฐานการยื่นขอรับการสงเคราะห์

1. บัตรประจำตัวประชาชน หรือสูติบัตรกรณีบุคคลอายุต่ำกว่าเจ็ดปี 
2. ทะเบียนบ้าน
3. หนังสือรับรองสภาพการเป็นนักเรียน/นักศึกษาจากสถานศึกษา
4. แผนที่บ้านพอสังเขป   
 


​​
6. ทุนประกอบวิชาชีพ

ยื่นคำขอในท้องที่เขตพื้นที่ที่ผู้ยื่นอาศัยอยู่
อัตราเบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง ไม่เกินครอบครัวละ 5,000.-บาทต่อปี

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิยื่นคำขอ

1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย
2. มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครตามทะเบียนบ้าน
3. ครอบครัวประสบปัญหาความเดือดร้อน ยากจน เพราะเหตุหัวหน้าครอบครัวหรือผู้หาเลี้ยงครอบครัวตาย ทอดทิ้ง สาบสูญ ต้องโทษจำคุก พิการ ทุพพลภาพป่วยทางร่างกายหรือจิตใจ หรือเหตุอื่นจนไม่สามารถ ประกอบอาชีพเลี้ยง ครอบครัว ตามควรแก่อัตภาพ

หลักฐานการยื่นขอรับการสงเคราะห์

1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. ทะเบียนบ้าน
3. แผนที่บ้านพอสังเขป


 ​​​
7. เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด
** ขยายระยะเวลาการรับสิทธิให้แก่เด็กแรกเกิดจนอายุครบ 3 ปี เป็นให้สิทธิเด็กถึงอายุ 6 ปี และขยายฐานรายได้ของกลุ่มเป้าหมาย จากรายได้ครัวเรือนรวมเฉลี่ยไม่เกิน 36,000 บาท ต่อคน ต่อปี เป็น รายได้ครัวเรือนรวมเฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี
 
สิทธิการรับเงินอุดหนุนฯ
 
1. เด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 – 30 กันยายน 2561 และเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิรายเดิมจะได้รับเงินต่อเนื่องจนอายุครบ 6 ปี ไม่ต้องมายื่นลงทะเบียนใหม่
2. เด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ที่มีคุณสมบัติครบ แต่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อนให้มาลงทะเบียนและจะได้รับสิทธินับตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนจนเด็กอายุครบ 6ปี
3. เด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 – 30 กันยายน 2562 ที่มีคุณสมบัติครบ กรณีมาลงทะเบียนภายในวันที่ 30 กันยายน 2562 จะได้รับสิทธินับจากวันที่เด็กเกิดจนถึงอายุครบ 6 ปี แต่หากลงทะเบียนหลังจากวันที่ 30 กันยายน 2562 ไปแล้ว จะได้รับสิทธินับจากเดือนที่ลงทะเบียน จนอายุครบ 6 ปี
 
คุณสมบัติของผู้มีสิทธิยื่นคำขอ
 
1. หญิงตั้งครรภ์ หรือมารดา หรือบิดา หรือผู้ปกครองที่เลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็นผู้มีสัญชาติไทย
2. เด็กแรกเกิดมีสัญชาติไทย เกิดตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2558 เป็นต้นไป อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้รวมเฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี และไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการจากหน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ และไม่อยู่ในความดูแลของหน่วยงานรัฐหรือเอกชน เด็กที่ได้รับเงินสงเคราะห์บุตรจากกองทุนประกันสังคม สามารถยื่นขอรับสิทธิเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดได้
3. เด็กและผู้ปกครองพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เขตจตุจักรไม่น้อยกว่า 180 วัน มีชื่อภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านอยู่ในพื้นที่อื่นได้
 
หลักฐานการยื่นขอรับสิทธิ
 
1. แบบลงทะเบียน (แบบ ดร.01)
2. แบบรับรองสถานะของครัวเรือน (แบบ ดร.02)
3. บัตรประจำตัวประชาชนและทะเบียนบ้านของมารดาหรือบิดา หรือผู้ปกครองของเด็กแรกเกิดแล้วแต่กรณี 
4. สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ
5. สำเนาสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก (หน้าที่1 และหน้าฉีดวัคซีน) จำนวน 1 ฉบับ
6. สำเนาสูติบัตรเด็กแรกเกิด จำนวน 1 ฉบับ
7. สำเนาทะเบียนบ้านเด็กแรกเกิด จำนวน 1 ฉบับ
8. สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ประเภทออมทรัพย์ เผื่อเรียก) ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนของผู้ยื่นขอรับสิทธิ   จำนวน 1 ฉบับ
9. สำเนาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้ยื่นขอรับสิทธิ (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ
10. แผนที่บ้านพอสังเขป
11. เอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่เจ้าหน้าที่ร้องขอ
​​



แบบฟอร์มต่างๆ

1.แบบคำขอขึ้นทะเบียนรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 



2.

แบบคำขอบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเพื่อส่งเข้ากองทุนผู้สูงอายุสำหรับจ่ายเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย 



3.แบบคำขอยกเลิกการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 



4.แบบคำร้องขอเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิการรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ/เบี้ยความพิการ 



5.แบบแสดงความจำนงรับเบี้ยความพิการ 



6.แบบคำขอรับเงินสงเคราะห์และรับรองผู้รับผิดชอบในการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี (แบบ ศผส.01) 



7.แบบรับรองการจัดการศพผู้สูงอายุ กรณีไม่ได้รับการสำรวจข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน ในปีที่ตาย และผู้สูงอายุอยุ่ในครัวเรือนยากจนตามเกณฑ์ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (แบบ ศผส.02)  



8.คำขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการหอพักสถานศึกษา 



9.แบบลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด (แบบ ดร.01) 



10.แบบรับรองสถานะของครัวเรือน ตามรางแสดงจำนวนสมาชิกและรายได้ของครัวเรือน (แบบ ดร.02) 




11.แบบฟอร์มการลงทะเบียนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP 


12.แบบฟอร์มข้อมูลผลิตภัณฑ์ OTOP  


 


 

smiley

 ให้บริการทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.00 - 16.00 น. 

smiley



 

smiley

 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม ชั้น 3  

smiley



 

smiley

 โทรศัพท์ 0 2513 3444 ต่อ 5234 , 5236 

smiley


โทรศัพท์ 0 2513 9954