มาตรฐานใหม่ Wi-Fi 6E ใช้เลยหรือรอก่อน
เรียบเรียงโดย สายัณห์ สีธูป
นักวิชาการคอมพิวเตอร์ชำนาญการ
กองบริการระบบคอมพิวเตอร์
…………………………..
กลุ่ม Wi-Fi Alliance ได้เปิดตัว Wi-Fi 6 หรือในชื่อเต็ม ๆ ว่า 802.11ax ไปตั้งแต่เมื่อปี 2019 Wi-Fi 6 มีจุดเด่น คือ อัตราการรับ-ส่งข้อมูลสูงขึ้น ความจุสัญญาณมากขึ้น ใช้พลังงานน้อยลง และรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เป็นจำนวนมาก จากนั้นในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Wi-Fi Alliance ก็ได้เปิดตัว Wi-Fi 6E ตามมา ซึ่งกำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของการเชื่อมต่อไร้สายในอนาคต แล้วมีดียังไง จะพามาให้รู้จักกันแบบเข้าใจง่าย ๆ
มาตรฐานใหม่ Wi-Fi 6E ใช้เลยหรือรอก่อน
ปัจจุบัน Wi-fi 6 นับว่าเป็นมาตรฐานที่ควรมีของ Router เพื่อรองรับกับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการใช้งานในปัจจุบันที่ค่อนข้างกิน bandwidth จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นการดู Netflix Youtube หรือ Content ที่เป็นวีดีโออื่น ๆ แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีการประกาศมาตรฐานใหม่นั่นคือ Wi-Fi 6E จาก Federal Communications Commission ที่ได้ลงมติให้เปิดย่านความถี่ใหม่สำหรับการใช้งาน Wi-fi 6E โดยเฉพาะเพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับช่องสัญญาณที่แออัด Wi-fi 6E คืออะไรอันนี้ ต้องขอย้อนกลับไปพูดถึงมาตรฐาน Wi-fi 6 และ Wi-Fi รุ่นก่อนหน้าก่อน โดยหลัก ๆ แล้วจะใช้คลื่นความถี่ที่ 2.4 GHz และ 5 GHz เป็นหลัก ส่วน Wi-Fi 6E จะเป็นอุปกรณ์ที่ทำงานบนย่านความถี่ 6 GHz ซึ่งจะมีความกว้างของสัญญาณมากกว่าครับหลายคนอาจสงสัยว่า ทำไม Wi-Fi 6 ถึงไม่ใช้คลื่นความถี่ 6 GHz อย่าพึ่งสับสนกับคำว่า “คลื่นความถี่” และ “มาตรฐาน Wi-Fi” นะครับ มันคนละส่วนกัน ซึ่ง Wi-Fi 6 แม้จะเข้ามาจัดลำดับความสำคัญการรับส่งข้อมูลให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้การรับ – ส่งสัญญาณเหมาะสมขึ้น แต่ก็ยังติดกับดักคลื่นสัญญาณ 2.4 และ 5 GHz ที่มีการใช้งานมาเป็นเวลาหลายปี และการเปิดย่านความถี่ 6 GHz เป็นการเพิ่มคลื่นความถี่ที่ใหญ่ที่สุดของ Wi-Fi นับตั้งแต่มีการใช้งานสองคลื่นนี้ตั้งแต่ปี 1989 การกระโดดจาก 5 GHz มาเป็น 6 GHz อาจฟังดูไม่มากเท่าไหร่ แต่โดยพื้นฐานแล้ว มันจะเพิ่มจำนวนคลื่นอากาศมากเป็นสี่เท่าจากเดิมครับ ทำไมถึงต้องมีคลื่น 6 GHz ทุกวันนี้
หากใครอยู่บ้านเดี่ยวแล้วใช้งานเน็ตในบ้านแค่ 3-4 คน เรื่องปัญหา Wi-Fi จะไม่ส่งผลกระทบอะไรเลย แต่กับคนที่อยู่บ้านจัดสรรหรือคอนโด หากคุณใช้ Wi-Fi เป็นหลัก คลื่นสัญญาณที่มีอาจไม่เพียงพอ หาก Router แต่ละตัวใช้คลื่นความถี่เดียวกัน และนั่นก็ทำให้ Wi-Fi เราช้า ให้ลองนึกภาพว่า ขับรถในต่างจังหวัด กับขับรถในเมือง ถนนเท่าเดิม แต่ผู้ใช้มากขึ้น การจราจรมันย่อมแออัดเป็นธรรมดา ในความเป็นจริง
แล้ว Router ในรุ่นใหม่ ๆ จะมีการเปลี่ยนคลื่นความถี่อัตโนมัติ หากคลื่นนั้นเต็มก็จะหันไปใช้ถนนอีกเส้นที่คนไปน้อยหน่อย แต่ถ้าถนนทุกเส้นเต็ม มันก็ไปไหนไม่ได้เหมือนกัน ทำให้ต้องมีการเพิ่มถนนให้กว้างขึ้น คลื่น 6 GHz ที่เพิ่มเข้ามาในมาตรฐาน Wi-Fi 6E เป็นเหมือนการเพิ่มทางด่วนพิเศษ ให้ Router มีตัวเลือกในการเปลี่ยนช่องความถี่มากขึ้น และทำการใช้งาน Wi-Fi ลื่นไหลและได้ความเร็วตามสเปคที่ควรจะเป็น หลายคนอาจเจอปัญหาว่า ขนาดติดเน็ตความเร็ว 500/500 mbps แต่ประชุม Zoom อยู่แล้วกระตุกทั้งที่ Zoom ไม่น่าจะใช้เน็ตเกิน 20 mbps ด้วยซ้ำ บางคนถึงขั้นไปวีนใส่ ISP (Internet Service Provider) แต่ปัญหาอาจมาจากการที่ถนนหรือคลื่นความถี่ที่่ใช้งานแออัด ซึ่งเราสามารถทดสอบความเร็วง่าย ๆ ผ่านสาย Lan ถ้า Lan วิ่งมาเต็ม มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาจาก ISP แล้วล่ะครับ ที่นี้ เราจะใช้งาน Wi-Fi 6E ได้อย่างไร หากเราจะใช้ Wi-Fi 6E ตัว Router และอุปกรณ์เชื่อมต่อ (Computer , Smart phone, Smart Home หรืออื่น ๆ) จะต้องรองรับการใช้งานมาตรฐาน Wi-Fi 6E เหมือนกัน ถึงจะใช้ย่านความถี่ 6GHz ได้ครับ หากอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งไม่รองรับ เราก็จะได้ใช้ที่คลื่น 5 GHz หรือ 2.4 GHz แทน ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า Router Wi-Fi 6E จะไม่สามารถใช้คลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz ได้นะครับ ยังใช้ได้เหมือนเดิม มันเพียงแค่เพิ่มความสามารถในใช้งานคลื่น 6GHz เพิ่มเข้ามา เหมือนตอนที่เพิ่ม 5 GHz เข้ามาใช้งานกับ 2.4 GHz จะใช้ Wi-Fi 6E เลยได้ไหม ตอนนี้ Wi-Fi 6E ยังใช้งานได้แค่ในสหรัฐเท่านั้น บ้านเรายังนับว่าเป็นเรื่องใหม่ เพราะผู้ผลิต Router ไม่สามารถทำออกมาขายได้ทันที มันมีเรื่องของกฎหมายที่หน่วยงานอย่าง กสทช. จะต้องเข้ามาพิจารณาและกำกับดูแลให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งก็ต้องใช้เวลานิดนึงครับอย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้อุปกรณ์ที่รองรับ Wi-Fi 6E ยังมีไม่มาก Smart phone ในรุ่นใหม่ก็ยังรองรับแค่ Wi-Fi 6 เท่านั้น ถึงแม้จะหา Router Wi-Fi 6E ได้ ก็ต้องหาอุปกรณ์ที่รองรับมาใช้งานเหมือนกัน ฉะนั้นยังไม่ต้องรีบครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://sea.pcmag.com/networking/41421/what-is-wi-fi-6e
https://www.wi-fi.org/discover-wi-fi/wi-fi-certified-6