วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563
#เขตวัฒนา รับลงทะเบียนผู้สูงอายุรายใหม่ และแจ้งย้ายสิทธิ ถึง 30 พ.ย.63
#เขตวัฒนา รับลงทะเบียนผู้สูงอายุรายใหม่ และแจ้งย้ายสิทธิ ถึง 30 พ.ย.63
>> นางสาวสุชิรา ศิลานนท์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนาแจ้งว่า สำนักงานเขตวัฒนา เปิดรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 (ห้วงเวลาที่ 1) และแจ้งการย้ายสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตามภูมิลำเนาในทะเบียนบ้าน ตั้งแต่บัดนี้ - 30 พฤศจิกายน 2563 ณ ฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ ชั้น 6 สำนักงานเขตวัฒนา ในวันและเวลาราชการ (จันทร์ -ศุกร์ เวลา 08.00-16.00 น.)
>> จึงขอเชิญชวนผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์) มาลงทะเบียน ตามกำหนดเวลาดังกล่าว เพื่อให้การจ่ายเบี้ยยังชีพรายเดือนสำหรับผู้สูงอายุในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ลดปัญหารายชื่อตกหล่นและไม่ทันตามกำหนดเวลา โดยจะเริ่มจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายใหม่ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตวัฒนา
โทร. 02-381-7934 ต่อ 7034
>> คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคือ
- เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุ 60 ปีบริบูรณ์ (เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2505)
- มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เขตวัฒนา
- และไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ
- และสำหรับผู้สูงอายุที่มีการ #ย้ายภูมิลำเนาในทะเบียนบ้าน #ข้ามเขตหรือข้ามจังหวัด #ระหว่างปีงบประมาณ
ขอให้มาลงทะเบียน #แจ้งย้ายสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (หากไม่มีการย้ายทะเบียนไม่ต้องมาแจ้ง) ที่สำนักงานเขตที่มีทะเบียนบ้านอยู่ปัจจุบัน ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เพื่อไม่ให้ขาดสิทธิในการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปีงบประมาณถัดไป
>> ผู้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์สามารถยื่นหลักฐาน
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ที่มีรูปถ่ายและเลขประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย
- พร้อมสำเนาเอกสารทั้งหมดอีก 1 ชุด
*หากไม่สามารถมาลงทะเบียนด้วยตนเองได้ อาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้มายื่นแทนได้ โดยผู้ที่มอบอำนาจต้องยื่นเอกสารเพิ่มคือ หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ดูแลผู้สูงอายุ
>> ผู้สูงอายุที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ในเดือนถัดจากเดือนเกิดที่ผู้สูงอายุมีอายุครบ60ปีบริบูรณ์
ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 (ตั้งแต่เดือนตุลาคม2565 เป็นต้นไป) และจะได้รับทุกเดือนตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดอัตราเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ ดังนี้
อายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท
อายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท
อายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท
และอายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท
>> นางสาวสุชิรา ศิลานนท์ ผู้อำนวยการเขตวัฒนาแจ้งว่า สำนักงานเขตวัฒนา เปิดรับลงทะเบียนผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 (ห้วงเวลาที่ 1) และแจ้งการย้ายสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตามภูมิลำเนาในทะเบียนบ้าน ตั้งแต่บัดนี้ - 30 พฤศจิกายน 2563 ณ ฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ ชั้น 6 สำนักงานเขตวัฒนา ในวันและเวลาราชการ (จันทร์ -ศุกร์ เวลา 08.00-16.00 น.)
>> จึงขอเชิญชวนผู้มีสิทธิได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์) มาลงทะเบียน ตามกำหนดเวลาดังกล่าว เพื่อให้การจ่ายเบี้ยยังชีพรายเดือนสำหรับผู้สูงอายุในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ลดปัญหารายชื่อตกหล่นและไม่ทันตามกำหนดเวลา โดยจะเริ่มจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุรายใหม่ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตวัฒนา
โทร. 02-381-7934 ต่อ 7034 >> คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคือ
- เป็นผู้มีสัญชาติไทย อายุ 60 ปีบริบูรณ์ (เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2505)
- มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่เขตวัฒนา
- และไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ
- และสำหรับผู้สูงอายุที่มีการ #ย้ายภูมิลำเนาในทะเบียนบ้าน #ข้ามเขตหรือข้ามจังหวัด #ระหว่างปีงบประมาณ
ขอให้มาลงทะเบียน #แจ้งย้ายสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (หากไม่มีการย้ายทะเบียนไม่ต้องมาแจ้ง) ที่สำนักงานเขตที่มีทะเบียนบ้านอยู่ปัจจุบัน ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เพื่อไม่ให้ขาดสิทธิในการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในปีงบประมาณถัดไป>> ผู้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์สามารถยื่นหลักฐาน
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้ที่มีรูปถ่ายและเลขประจำตัวประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- สมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย
- พร้อมสำเนาเอกสารทั้งหมดอีก 1 ชุด
*หากไม่สามารถมาลงทะเบียนด้วยตนเองได้ อาจมอบอำนาจเป็นลายลักษณ์อักษรให้ผู้มายื่นแทนได้ โดยผู้ที่มอบอำนาจต้องยื่นเอกสารเพิ่มคือ หนังสือมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ดูแลผู้สูงอายุ
>> ผู้สูงอายุที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ในเดือนถัดจากเดือนเกิดที่ผู้สูงอายุมีอายุครบ60ปีบริบูรณ์
ในปีงบประมาณ พ.ศ.2565 (ตั้งแต่เดือนตุลาคม2565 เป็นต้นไป) และจะได้รับทุกเดือนตามมติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดอัตราเบี้ยยังชีพรายเดือนแบบขั้นบันไดสำหรับผู้สูงอายุ ดังนี้
อายุ 60-69 ปี จะได้รับ 600 บาท
อายุ 70-79 ปี จะได้รับ 700 บาท
อายุ 80-89 ปี จะได้รับ 800 บาท
และอายุ 90 ปีขึ้นไป จะได้รับ 1,000 บาท
