แพทย์ กทม.เตือนไวรัส RSV โรคระบาดที่อาจคร่าชีวิตเด็ก
แพทย์ กทม.เตือนไวรัส RSV โรคระบาดที่อาจคร่าชีวิตเด็ก
กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการแพทย์ แนะให้ผู้ปกครองเฝ้าระวังบุตรหลานของท่าน ในช่วงฝนตกหนักอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทำให้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัส RSV กำลังระบาดติดต่อกันง่าย ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตอาการระบบทางเดินหายใจของลูกหลานอย่างใกล้ชิด
ดร.นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กทม. กล่าวว่า เชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) มักระบาดมากในช่วงฤดูฝนถึงฤดูหนาว (ประมาณเดือนกรกฎาคม–มกราคม) เด็กที่ร่างกายแข็งแรง เมื่อติดเชื้อไวรัส RSV มักจะมีอาการน้อยคล้ายไข้หวัดธรรมดา น้ำมูกไหล ไอ จาม มีไข้ คออักเสบ แต่ในเด็กเล็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี หรือ ทารกคลอดก่อนกำหนด หรือ ในกลุ่มเด็กที่มีโรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ ภูมิต้านทานบกพร่อง อาจมีอาการรุนแรงเป็นหลอดลมฝอยอักเสบ และปอดบวม ไข้สูง ไอมีเสมหะ หายใจหอบจนอกบุ๋ม หายใจแรง หายใจออกลำบาก หรือหายใจมีเสียงวี้ด ซึม ตัวเขียว ในบางรายอาจไอมากจนอาเจียน ไม่สามารถรับประทานอาหารได้ ผู้ปกครองจึงควรหมั่นสังเกตอาการของลูกอย่างใกล้ชิด หากมีอาการรุนแรงดังกล่าว ควรรีบพาเด็กไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาต่อไป
ทั้งนี้ เชื้อไวรัส RSV เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ โดยเชื้อ RSV สามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยผ่านทางเยื่อบุตา จมูก ปาก หรือผ่านทางการสัมผัสเชื้อโดยตรงจากการสัมผัสผู้ป่วย หรือ สารคัดหลั่งจากปาก จมูก และทางลมหายใจผู้ป่วย ในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันไวรัส RSV การรักษาจึงเป็นรักษาตามอาการ สำหรับผู้ป่วยเด็กในรายที่มีอาการรุนแรงจนกินได้น้อย มีหลอดลมฝอยอักเสบ และปอดบวม หายใจหอบแรง ลำบาก หรือหายใจมีเสียงวี้ด จำเป็นต้อง รับไว้รักษาในโรงพยาบาล ผู้ปกครองสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อไวรัส RSV ในลูกน้อยได้โดยดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หมั่นล้างมือให้สะอาด แยกผู้ป่วย RSV เพื่อป้องกันการติดต่อทางการสัมผัส ทำความสะอาดบ้านและของเล่นเด็กอยู่เสมอ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ หลีกเลี่ยงการพาเด็กเข้าไปในที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด สวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ในที่แออัดหรือในบริเวณสาธารณะ หลีกเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่ เนื่องจากเด็กที่สูดดมควันบุหรี่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อ RSV และมีอาการรุนแรงมากกว่า ควรล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเมื่อมีน้ำมูกคั่ง ดื่มน้ำที่สะอาดในปริมาณที่ควรได้รับ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและพักผ่อนให้เพียงพอ หากสงสัยในอาการป่วยเข้าข่าย สามารถติดต่อสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อรับการตรวจรักษาได้ทันที หรือสายด่วนสุขภาพสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร โทร.1646 ตลอด 24 ชั่วโมง
#คิดถึงสุขภาพเชื่อมั่นสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร
#PRMSD #MSD #สำนักการแพทย์ #กรุงเทพมหานคร
#48thBMADigitalHealthTechnologyNetwork
--------------------------------------
สามารถติดตามข่าวสารต่างๆได้ที่
1. Twitter : @prmsdbangkok
2. Youtube : https://fbapp.us/yt/228178140543026
3. TikTok : @BMA.DOCTOR
4. LINE Square : https://line.me/ti/g2/QIhNb8hbpHRYrf8FrCBQhw
5. Hotline 1646 : สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ กทม.