กทม. เปิดแผนมาตรการรับมือโควิดเทศกาลสงกรานต์

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2565
image

กทม. เปิดแผนมาตรการรับมือโควิดเทศกาลสงกรานต์

สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เปิดแผนมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเน้น “รณรงค์ เฝ้าระวัง เตรียมความพร้อม” ทั้งก่อนสงกรานต์ ช่วงเทศกาล 7 วันอันตราย และรับมือหลังสงกรานต์ เพื่อความไม่ประมาทต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดต่อการติดเชื้อโรคโควิด 19 และขอความร่วมมือประชาชนทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด โดยสวมหน้ากาก 100% ทุกคน ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง และหลีกเลี่ยงไปในที่ที่มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก รวมถึงสถานที่เสี่ยงต่างๆ

นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ ประชาชนจำนวนมากจะเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อพบปะญาติพี่น้อง ร่วมทำบุญ และพักผ่อน ซึ่งในปีที่ผ่าน ต้องปรับเปลี่ยนวิถีเทศกาลไปอย่างสิ้นเชิงเพื่อควบคุมการระบาด ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนปิดสงกรานต์ งดกิจกรรมเสี่ยง และล่าสุดปี 2565 เริ่มมีการอนุญาตให้จัดกิจกรรมตามประเพณีได้ แต่ยังคงต้องเข้มมาตรการ Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด

สำนักการแพทย์ กทม. จึงขอเน้นย้ำมาตรการช่วงเทศกาลสงกรานต์ แบ่งออกเป็น 3 ระยะดังนี้

ระยะที่ 1 ก่อนเทศกาลสงกรานต์

รณรงค์ให้ประชาชนมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในทุกเข็มทั้งเข็มหลักและเข็มกระตุ้น ก่อนการเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือการท่องเที่ยวในต่างจังหวัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อการแพร่กระจายของเชื้อในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีประชาชนออกเดินทางและท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยเปิดให้ประชาชนสามารถจองผ่านระบบ QueQ และ Walk in ไปยัง ณ จุดบริการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลในสังกัด กทม.ทั้ง 11 แห่ง ตลอดเดือนเมษายนนี้

ระยะที่ 2 ระหว่างเทศกาลสงกรานต์

การเฝ้าระวังอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2556 สำนักการแพทย์ได้เตรียมความพร้อมด้านระบบการแพทย์ฉุกเฉิน โดยจัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ตลอดจัดเตรียมความพร้อมของหน่วยกู้ชีพและกู้ภัย หากมีอุบัติเหตุสามารถโทรแจ้งเหตุได้ที่สายด่วน 1669 ตลอด 24 ชั่วโมง

ระยะที่ 3 หลังกลับจากเทศกาลสงกรานต์

เพื่อความไม่ประมาทหากเกิดการระบาดระลอกใหม่ภายหลังเทศกาลสงกรานต์ โดยวางแนวทางการเตรียมความพร้อมและขอความร่วมมือ ดังนี้

1.จัดเตรียมเตียงและบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อเตรียมความพร้อมศักยภาพเตียงในการรองรับผู้ป่วยที่อาจเพิ่มมากขึ้นภายหลังเทศกาลสงกรานต์ ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลหลัก โรงพยาบาลสนาม Hospitel จำนวน 3,500 เตียง นอกจากนี้ยังมีศูนย์พักคอยที่สามารถรองรับผู้ป่วยได้จำนวน 5,500 เตียง อีกทั้งยังมีการดำเนินการดูแลรักษาที่บ้าน Home Isolation และ COVID Self Isolation ที่ดูแลโดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เตรียมพร้อมสำรองยา และเวชภัณฑ์ให้มีความเพียงพอ

2.การตรวจคัดกรองตนเองหลังจากเทศกาลสงกรานต์ โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนเมื่อเดินทางกลับมาจากเทศกาลสงกรานต์ มีการตรวจคัดกรองตนเองก่อนเริ่มปฏิบัติงาน เช่น การตรวจด้วยวิธี ATK หรือ RT-PCR ซึ่งหากมีผลบวกจะได้นำเข้าสู่ระบบการรักษาได้อย่างทันท่วงที

3.การเฝ้าระวังอาการตนเองหลังจากเทศกาลสงกรานต์ โดยขอความร่วมมือให้ประชาชนเมื่อเดินทางกลับมาจากเทศกาลสงกรานต์ เฝ้าระวังอาการตนเองที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น อาการไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยถ้าหากมีอาการดังกล่าวให้เร่งดำเนินการตรวจคัดกรองตนเองด้วยวิธี ATK หรือ RT-PCR หากผลเป็นลบให้ตรวจซ้ำเมื่อครบ 7 วัน หรือเมื่อมีอาการ ช่วงสังเกตอาการให้เลี่ยงพบผู้คน สวมหน้ากากตลอดเวลา และใช้มาตรการ Work From Home ในช่วง 7 วันหลังกลับจากสถานที่ต่างจังหวัด ทั้งนี้หากตรวจพบผลเป็นบวก กรณีผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว(ไม่มีอาการ) แยกกักตัวที่บ้านแบบ “เจอ แจก จบ” หรือรักษาที่บ้าน (Home Isolation) กลุ่มสีเหลือง สีแดง ส่งต่อโรงพยาบาลที่สามารถดูแล (ใช้สิทธิ UCEP Plus)

ทั้งนี้ วิธีการที่จะทำให้สถานการณ์ไม่เพิ่มสูงขึ้นจนเกินศักยภาพระบบสาธารณสุข ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกันป้องกันตนเองและคนในครอบครัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะต้องเข้มปฏิบัติตามมาตราการเว้นระยะห่าง DMHTT และ COVID Free Setting อย่างเคร่งครัด มุ่งเน้น 3 พฤติกรรมสำคัญ คือ 1.ไม่รวมกลุ่มทานข้าวด้วยกันเป็นเวลานาน ถ้าทานข้าวร่วมกันต้องแบบใช้เวลาสั้นๆ 2.ใส่หน้ากากอนามัยถ้าอยู่กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงคือกลุ่ม 608 หรือเด็กเล็ก ป้องกันไม่ให้ป่วยและไปรับวัคซีน และ 3.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดปาร์ตี้ ซึ่งจะช่วยป้องกันเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุด้วย หากต้องการปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพ สามารถติดต่อสอบถาม ได้ที่ Hotline 1646 สายด่วนสุขภาพสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร บริการตลอด 24 ชั่วโมง

#คิดถึงสุขภาพเชื่อมั่นสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร

#FightCOVID19 MSD Moving Forward Together

#วัคซีนเพื่อสังคมไทยสู้โควิด

#PRMSD #MSD #สำนักการแพทย์ #กรุงเทพมหานคร

#48thBMADigitalHealthTechnologyNetwork

--------------------------------------

สามารถติดตามข่าวสารต่างๆได้ที่

1. Twitter : @prmsdbangkok

2. Youtube : https://fbapp.us/yt/228178140543026

3. LINE Square : https://line.me/ti/g2/QIhNb8hbpHRYrf8FrCBQhw

4. Hotline 1646 : สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ กทม.