อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับไปประดิษฐานยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร 
วันศุกร์ที่ 14 เม.ย.66 เวลา 15.00 น. นายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานประกอบพิธีอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ลงจากมณฑปบริเวณลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ขึ้นรถบุปผชาติเพื่ออัญเชิญกลับไปประดิษฐาน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมี รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสมบูรณ์ หอมนาน ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ผู้บริหารสำนักงานเขต เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี 
ทั้งนี้ ตามตำนานเล่าสืบต่อกันถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์พระพุทธสิหิงค์ว่า “พระพุทธสิหิงค์เมื่อประทับอยู่ ณ ที่ใด ย่อมทรงทำให้ตามพระพุทธศาสนารุ่งเรืองดั่งดวงประทีปชัชวาล เหมือนหนึ่งว่าพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่” กรุงเทพมหานคร โดยสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐาน ณ มณฑปชั่วคราว ลานคนเมือง ตั้งแต่วันที่ 12 – 14 เมษายน 2566 เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชาและสรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคล ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังว่างเว้นการจัดงานเทศกาลสงกรานต์เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 และได้อัญเชิญกลับมายังพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมีนายเฉลิมพล โชตินุชิต รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้มด้วยรศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสมบูรณ์ หอมนาน ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว เเละผู้บริหารของกรุงเทพมหานครร่วมขบวนอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับ
ต่อมาในเวลา 16.00น. ได้จัดพิธีพราหมณ์และพิธีเวียนเทียนสมโภช ณ บริเวณลานหน้าพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมีนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้องร่วมประกอบพิธี โดยมี พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณฯ เป็นผู้ประกอบพิธีพราหมณ์และพิธีเวียนเทียนสมโภช จากนั้นจึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ขึ้นประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร