ผู้ว่าฯ กทม. เยี่ยมชม "ห้องเรียนสู้ฝุ่น" โรงเรียนวัดวิมุตยาราม ได้รับรางวัลระดับดีเลิศ

วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2566
image

 วันที่ 20 ธันวาคม 2566 เวลา 10.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกทม. ผู้บริหารสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ผู้บริหารกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารสำนักการศึกษา เยี่ยมชมผลการดำเนินงาน "ห้องเรียนสู้ฝุ่น" ของโรงเรียนวัดวิมุตยาราม แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับรางวัลระดับดีเลิศ ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) และกรมอนามัย เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา 
.
โดยมีนางสาวอารียา เพ็งประเสริฐ ผู้อำนวยการเขตบางพลัด นางสาวมานิตา รุจะศิริ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตฯ พันตำรวจเอกภิญโญ ป้อมสถิตย์ ส.ก.เขตบางพลัด คณะผู้บริหารเขตฯ หัวหน้าฝ่าย นางน้ำอ้อย แสงกระจ่าง ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดวิมุตยาราม และคณะครู นักเรียน ให้การต้อนรับ
.
 โครงการ "ห้องเรียนสู้ฝุ่น" กรุงเทพมหานคร จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพต่อภาวะวิกฤตฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ และเตรียมความพร้อมของสถานศึกษา ครู และนักเรียนในการรับมือกับฝุ่น PM2.5 สร้างจิตสำนึกการไม่ก่อให้เกิดมลพิษ สร้างโรงเรียนต้นแบบรับมือกับฝุ่นในพื้นที่วิกฤตของกรุงเทพฯ ซึ่งที่ผ่านมา โรงเรียนในสังกัด กทม. เข้าร่วมโครงการดังกล่าวแล้ว 32 โรงเรียน และนอกสังกัด กทม. อีก 1 โรงเรียน รวม 33 โรงเรียน 
.
 ทั้งนี้ โรงเรียนวัดวิมุตยาราม ยังได้รับรางวัลระดับดีเลิศ ในโครงการสร้างองค์ความรู้สำหรับเด็กและเยาวชนเพื่อการตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพในพื้นที่เสี่ยงต่อปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก "ห้องเรียนสู้ฝุ่น" โดยหลักการของห้องปลอดฝุ่น (Clean Air Shelter) จะมีลักษณะเป็นห้องระบบปิด และมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ตลอดจนได้รับการสนับสนุนเครื่องเพิ่มออกซิเจนในอากาศ จำนวน 4 เครื่อง และเครื่องฟอกอากาศ จำนวน 6 เครื่อง จากโครงการขับเคลื่อนห้องปลอดฝุ่นเพื่อลดและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่นละอองขนาดเล็กในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในพื้นที่เสี่ยง กรมอนามัย ให้ทางโรงเรียนใช้สำหรับควบคุมคุณภาพอากาศภายในห้อง ซึ่งหากวันใดมีปริมาณฝุ่นมากและอยู่ในเกณฑ์ที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คุณครูจะนำนักเรียนเข้าไปในห้องเพื่อหลีกเลี่ยงฝุ่นละออง ซึ่งภายในห้องมีมุมสำหรับจัดแสดงผลงานและชุดการเรียนรู้เรื่องฝุ่นละออง ซึ่งเป็นผลงานของนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ให้สามารถเรียนรู้เรื่องฝุ่นละอองผ่านสาระการเรียนรู้วิชาต่าง ๆ ภายในห้องแห่งนี้ 
.
 ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า "เรื่องฝุ่นเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ มี 2 ปัจจัย คือ การลดฝุ่นและการสู้ฝุ่น ซึ่งเราทุกคนต้องช่วยกันไม่ว่าจะเป็นการลดจากแหล่งกำเนิดฝุ่น การเผา หรือการใช้รถยนต์ แต่การดำเนินการที่ผ่านมายังไม่ดีเท่าที่ควรไม่ว่าจะเป็นภาวะอากาศปิดที่ทำให้ค่าฝุ่นยังสูงอยู่ อีกทั้งยังต้องมีการป้องกันกลุ่มเปราะบางไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้สูงอายุ จึงเป็นเรื่องที่โรงเรียนต้องสร้างการรับรู้ทำความเข้าใจ และเป็นอีกหนึ่งนโยบายที่จะสร้างห้องเรียนปลอดฝุ่นให้เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้เรื่องฝุ่นได้ อ่านค่าฝุ่นและใช้ธงสีตามคุณภาพอากาศได้ เด็กจะเข้าใจถึงต้นตอของปัญหาสามารถนำความรู้ไปขยายผลต่อในครอบครัวและชุมชนได้ จึงเกิดเป็นห้องเรียนปลอดฝุ่นที่กทม.ทำร่วมกับ สสส. และสำนักอนามัย ซึ่งเป้าหมายอย่างน้อยต้องมี 1 ห้องใหญ่ในแต่ละโรงเรียน ซึ่งปัจจุบันเดือนธันวาคมมีห้องเรียนปลอดฝุ่นแล้ว 758 ห้อง จึงเป็นอีกเรื่องที่กทม.ต้องเร่งขยายผลให้ครบทุกโรงเรียน"

 ภาพ/ข่าว : งานประชาสัมพันธ์ เขตบางพลัด