ความรู้เกี่ยวกับมูลนิธิ (3-3-58)

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2558
image

 

ความรู้เกี่ยวกับมูลนิธิ

มูลนิธิเกิดขึ้นจาก คน ๆ หนึ่ง หรือ คนหลาย ๆ คน ที่ต้องการที่จะทากิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง

หรือหลาย ๆ อย่าง เพื่อการกุศลสาธารณะ การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือการสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ของชุมชน หมู่บ้าน ตาบล อาเภอ จังหวัด ภาค ประเทศ ทวีป หรือโลกใบนี้

มูลนิธิ

 

ได้แก่ ทรัพย์สินที่จัดสรรไว้โดยเฉพาะสาหรับวัตถุประสงค์เพื่อการกุศลสาธารณะ

การศาสนา ศิลปะ วิทยาศาสตร์ วรรณคดี การศึกษา หรือเพื่อสาธารณประโยชน์อย่างอื่น โดยมิได้มุ่งหาผลประโยชน์มาแบ่งบันกัน และเป็นนิติบุคคลเมื่อได้จดทะเบียนตามบทบัญญัติ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง

และพาณิชย์

การจดทะเบียนมูลนิธิ

 

ให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดารงตาแหน่งประธานกรรมการมูลนิธิ หรือผู้ที่

ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ยื่นแบบ ม.น.

 

1 ณ สานักงานเขต ที่สานักงานใหญ่ของมูลนิธิจะจัดตั้งขึ้น สาหรับกรุงเทพมหานคร หรือที่ ๆ ว่าการอาเภอสาหรับจังหวัดอื่น ๆ

การแต่งตั้งกรรมการของมูลนิธิขึ้นใหม่ทั้งชุด หรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ

หรือการแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ ให้ประธานกรรมการของมูลนิธิ

 

หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นเครื่องแบบ ม.น. 2 ณ สานักงานเขตอันเป็นที่ตั้งของสานักงานใหญ่ของมูลนิธิ สาหรับกรุงเทพมหานคร หรือ

ที่ ๆ ว่าการอาเภอ สาหรับจังหวัดอื่น ๆ

มูลนิธิต้องทา

1.

 

มูลนิธิต้องจัดการทรัพย์สินของมูลนิธิไปตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ ห้ามหาผลประโยชน์เพื่อ

บุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

2.

 

มูลนิธิจะต้องไม่จะประกอบกิจการเกินกว่าที่กาหนดไว้ในกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตร

110

 

วรรคหนึ่ง เช่น ไม่ประกอบธุรกิจอย่างห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท เพราะจะเป็นการเกินความมุ่งหมายของกฎหมายการจัดตั้งมูลนิธิและยังอาจจะทาให้ทรัพย์สินของมูลนิธิต้องหมดสิ้นไป โดยไม่ได้ดาเนินการตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิเลย

3.

 

คณะกรรมการของมูลนิธิ ต้องแจ้งการเลิกมูลนิธิ ต่อนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร หรือ

นายทะเบียนมูลนิธิจังหวัด ณ สานักงานเขตหรือที่ว่าการอาเภอ อันเป็นที่ตั้งของสานักงานใหญ่ ตามแบบ

ม.น.

 

6 เมื่อมีเหตุตามมาตรา 130 (1), (2) และ (3)

4.

 

มูลนิธิต้องดาเนินกิจการตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการมูลนิธิมีมติซึ่งเป็นไปตามกรอบของ

กฎหมายและข้อบังคับกฎหมายของมูลนิธิ

5.

 

มูลนิธิต้องประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ ตามกาหนดเวลาของข้อบังคับเพื่อรับรองรายงาย

การประชุมครั้งที่ผ่านมา หรือแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ และสรุปผลการดาเนินงานของมูลนิธิในปี

ผ่านมา เป็นต้น

6.

 

มูลนิธิต้องแต่งตั้งกรรมการมูลนิธิ ให้เป็นไปตามข้อบังคับของมูลนิธิกาหนด

7.

 

มูลนิธิจะต้องบันทึกรายงานการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิให้ครบถ้วนถูกต้อง และชัดเจน

8.

 

การเปลี่ยนแปลงหรือแต่งตั้งกรรมการมูลนิธิขึ้นใหม่ทั้งชุด และแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของ

มูลนิธิ มูลนิธิจะต้องบรรจุไว้ในระเบียบวาระเพื่อพิจารณา

9.

 

สาเนาบัตรประจาตัวประชาชน บัตรข้าราชการ หรือบัตรอื่น ๆ และสาเนาทะเบียนบ้าน ต้องมี

การรับรองสาเนาถูกต้องด้วยตนเองเท่านั้น

มูลนิธิต้องปฏิบัติในรอบปี

1.

 

มูลนิธิจะต้องจัดต้องจัดทาบัญชีงบดุลประจาปีและให้ผู้ตรวจสอบบัญชีรับรอง

2.

 

มูลนิธิจะต้องแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีในปีต่อไป

3.

 

มูลนิธิจะต้องยื่นแบบชาราศีนิติบุคคลประจาปี ตามกฎหมายประมวลรัษฎากร ณ สานักงาน

สรรพากรพื้นที่ที่สานักงานใหญ่ของมูลนิธิตั้งอยู่

4.

 

มูลนิธิจะต้องรายงานผลการดาเนินงานของมูลนิธิต่อนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร

หรือนายทะเบียนมูลนิธิจังหวัด ณ สานักงานเขต หรือที่ว่าการอาเภอ อันเป็นที่ตั้งของสานักงานใหญ่มูลนิธิ

ภายในเดือนมีนาคมของทุกปีพร้อมด้วย

4.1

 

รายงานการดาเนินกิจการของมูลนิธิในรอบปีที่ผ่านมา

4.2

 

บัญชีรายได้ รายจ่าย และสาเนางบดุลของมูลนิธิในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งผู้สอบบัญชีรับ

อนุญาตได้รับรองความถูกต้องแล้ว (แบบ ม.น.

 

7)

4.3

 

สาเนารายงานการประชุมของคณะกรรมการของมูลนิธิทุกครั้งในปีที่ผ่านมา

มูลนิธิควรรู้

1.

 

สาเนาเอกสารข้อบังคับ และสรรพหนังสืออันเป็นหลักฐานของมูลนิธิให้ประธานกรรมการ

มูลนิธิ หรือผู้ที่ไดรับมอบหมาย เป็นผู้รับรองสาเนาถูกต้องทุกหน้า ทุกฉบับ

2.

 

มูลนิธิจะเรี่ยไรรายได้หรือไม่นั้น ให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติควบคุมการ

เรี่ยไร พุทธศักราช

 

2487

3.

 

นายทะเบียน พนักงานอัยการ หรือผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดอาจร้องขอต่อศาล ให้มีคาสั่ง

เลิกมูลนิธิได้ เมื่อปรากฏว่าวัตถุประสงค์ของมูลนิธิขัดต่อกฎหมาย หรือมูลนิธิกระทาการต่อกฎหมาย หรือ

ศีลธรรมอันดีของประชาชนหรืออาจเป็นภยันตรายต่อความสงบสุขของประชาชน หรือความมั่นคงของรัฐ

หรือมูลนิธิไม่สามารถดาเนินกิจการต่อไปได้ไม่ว่าเพราะเหตุใด ๆ หรือหยุดดาเนินกิจการตั้งแต่สองปีขึ้นไป

ค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับมูลนิธิ

1

 

. ค่าคาขอฉบับละ 10 บาท

2

 

. ค่าจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิ 200 บาท

3

 

. ค่าจะทะเบียนการแต่งตั้งกรรมการของมูลนิธิใหม่

ทั้งชุดหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของมูลนิธิ

 

50 บาท

4

 

. ค่าจะทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของมูลนิธิ 50 บาท

5

 

. ค่าขอตรวจเอกสารเกี่ยวกับมูลนิธิ สาหรับมูลนิธิหนึ่งครั้งละ 50 บาท

6

 

. ค่าคัดและรับรองสาเนาเอกสาร ฉบับละ 10 บาท

7

 

. ค่าขอให้นายทะเบียนดาเนินการใด ๆ เกี่ยวกับมูลนิธิ

ซึ่งมิใช่กรณีตาม

 

2, 3, 4, 5 หรือ 6 รายการหนึ่งครั้งละ 50 บาท

แหล่งค้นคว้าความรู้เพิ่มเติมเมื่อมีข้อสงสัย

1. http://www.sormorthor.org

2.

 

http://www.google.co.th พิมพ์คาว่ามูลนิธิ คลิกค้นหาโดย Google จะพบข้อมูลนิธิต่าง ๆ

3.

 

http://www.krisdika.go.th คลิกห้องสมุดกฎหมาย คลิกตัวบทกฎหมาย คลิกประมวลกฎหมาย คลิกประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการจดทะเบียนมูลนิธิการดาเนินกิจการและการจดทะเบียนมูลนิธิ พ.ศ.2545

4.

 

ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อย 2 กรมการปกครองโทรศัพท์ 0-2356-9568

5.

 

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 110 ถึงมาตรา 136 และมาตรา 1247 ถึง 1273

6.

 

ประมวลกฎหมายว่าด้วยการจดทะเบียนมูลนิธิ การดาเนินกิจการ และการทะเบียนมูลนิธิ พ.ศ. 2545

7.

 

กฎกระทรวงว่าด้วยค่าธรรมเนียมและการยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับมูลนิธิ พ.ศ. 2545

8.

 

พระราชบัญญัติกาหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจะทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจากัด

บริษัทจากัด สมาคมและมูลนิธิ (ฉ

 

บับที่ 2) พ.ศ. 2535

9

 

. พระราชบัญญัติควบคุมการเรี่ยไร พุทธศักราช 2487