ปากคลองตลาด
ปากคลองตลาด
ปากคลองตลาดเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของกรุงเทพฯโดยสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ดอกไม้และผัก ผลไม้ ทุกวันของปากคลองตลาดนับตั้งแต่เวลากลางวันถึงเวลาดึกไม่เคยหยุดนิ่ง มักจะมีพ่อค้าแม่ค้าที่ขายดอกไม้ปลีก ร้อยพวงมาลัยขาย เปิดร้านดอกไม้รับจัดดอกไม้เป็นช่อ หรือหากใครที่ต้องการดอกไม้ไปใช้งานตกแต่งบ้านงานบุญต่างๆ งานบวช งานรับปริญญา งานต้อนรับ งานแต่งงาน จนถึงงานศพ ต่างก็ต้องเดินทางมาซื้อดอกไม้ในราคาส่งจากตลาดปากคลอง ดอกไม้จากแหล่งปลูกทั่วประเทศล้วนถูกส่งมารวมกันที่ปากคลองทั้งสิ้นนอกจากนี้ตลาดปากคลองยังเป็นศูนย์รวมของผักและผลไม้สดที่มาจากสวน ผลผลิตของเกษตรกรในประเทศส่วนหนึ่งถูกส่งมาที่ปากคลองตลาด ซึ่งถ้าลูกค้าคนใดต้องการผลผลิตสดๆ ใหม่ๆ ของเกษตรกรทั่วประเทศ ที่ส่งตรงจากแหล่งผลิตทุกวัน ก็สามารถมาหาซื้อได้ที่ปากคลองตลาดแห่งนี้ได้เช่นกัน
ประวัติ
ในสมัยหนึ่งเคยเป็นตลาดปลามาก่อน เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุด มีเรือบรรทุกปลาทะเลมาจากท่าจีน (สมุทรสาคร) บรรทุกเรือแจวมาทางปากคลองบางกอกใหญ่ มาขึ้นที่ปากคลองตลาด ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการประกาศยกเลิกตลาดปลาแห่งนี้ให้ไปรวมอยู่ที่ตำบลวัวลำพอง (หัวลำโพงในปัจจุบัน) นอกจากนี้ในส่วนของพื้นที่ซึ่งเป็นตลาดปากคลอง ในอดีตเคยเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนกลางมาก่อน หลังจากโรงเรียนได้ถูกรื้อลงจึงมีการสร้างอาคารขึ้น แต่ทว่าก่อนหน้าที่จะมีการสร้างตึกในบริเวณปากคลองตลาดนี้ ภาพของการค้าขายบริเวณปากคลองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยในสมัยเมื่อประมาณ 40 ปีมาแล้ว ปากคลองตลาดเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าของตนริมน้ำ ประกอบกับพ่อค้าแม้ค้าจากที่อื่นพายเรือมาชุมนุมกันในบริเวณนี้ กลายเป็นตลาดน้ำย่อมๆ ส่วนมากเป็นเรือที่มาจากสวนแถบบางกรวย นนทบุรี พ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือมาชุมนุมค้าขายดังกล่าวนั้นจะไม่อาศัยท่าปากคลองเป็นที่ทำการซื้อขายถาวร หากแต่เคลื่อนที่ไปมาระหว่างปากคลองตลาดกับท่าเตียน กล่าวคือ พ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือมาจากสวนต่างๆทางฝั่งธนบุรีจะอาศัยท่าเตียนบ้าง ท่าปากคลองตลาดบ้างเป็นที่ชุมนุมซื้อขายสินค้า ในอดีตสมัยที่ผู้คนนิยมเดินทางและค้าขายทางเรือบริเวณท่าเตียนและท่าปากคลองตลาดดังกล่าวจึงเป็นแหล่งชุมนุมของเรือสินค้า เรือแจว รวมทั้งเรือนแพของประชาชน
สำหรับที่มาของคำว่า “ปากคลองตลาด” เริ่มตั้งแต่สมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงโปรดฯ ให้ขุดคลองหลายสาย โดยมีคลองเล็กสายหนึ่ง ที่ขุดขึ้นข้างวัดบูรณศิริอมาตยาราม ทำให้เกิดชุมชนริมน้ำขนาดใหญ่ ที่เรียกในสมัยก่อนว่า "คลองตลาด" และในย่านที่ไม่ไกลกัน ก็มีการขุดคลองในขึ้นอีกสายหนึ่ง โดยทั้ง 2 คลอง ได้กลายมาเป็นแหล่งค้าปลาแห่งเดียวกัน และเปลี่ยนจากตลาดค้าปลาไปที่อื่นแทน ทำให้ตลาดแห่งนี้แปรสภาพเป็นตลาดสดที่มีสินค้าเกษตรกรรมจนถึงปัจจุบัน ทำให้มีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ เริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวถ่ายรูปกับดอกไม้แถวปากคลองตลาดมากขึ้น ทำให้มีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาทดแทน เราจึงเรียกตลาดแห่งนี้ว่า "ปากคลองตลาด"
ที่มา:ชมรมคนรักปากคลองตลาด
ปัจจุบัน ปากคลองตลาดประกอบด้วยตลาดหลัก 3 แห่งได้แก่
1. ตลาดองค์การตลาด ตลาดของรัฐ สังกัดกระทรวงมหาดไทยมีซอยท่ากลางเป็นจุดขายผักที่ผู้คนขวักไขว่มากที่สุด เพราะเป็นบริเวณขนถ่ายสินค้าและมีที่จอดรถ
2. ตลาดยอดพิมาน ตลาดเอกชนอยู่ถัดจากซอยท่ากลาง
3. ตลาดส่งเสริมเกษตรไทย ตลาดเอกชนอยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดองค์การตลาดและตลาดยอดพิมาน
ปากคลองตลาด เดินชมดอกไม้ ถ่ายรูปฟีลลิ่งฟูลบูมหวาน ๆ ก็ได้ เท่ ๆ ก็ดีเดินออกจากสถานีสนามไชย ประตูทางออก 4 แล้วเดินข้ามมาทางฝั่งถนนจักรเพชร ก็จะพบเจอกับอาณาจักรดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีร้านขายดอกไม้ตั้งเรียงรายอยู่ริมถนนมากมาย หลากหลายสีสัน บรรยากาศสดใส มีทั้งดอกไม้ไทยและนำเข้าจากต่างประเทศ บางร้านก็เป็นร้านจัดดอกไม้ จัดวางเป็นช่อ ๆ มองไปทางไหนก็สวยงามไปหมด
เปิดทั้งวันทั้งคืน 12:00AM - 12:00PM ขึ้นอยู่กับว่าร้านดอกไม้แต่ละร้านหรือโซนแต่ละโซนจะมีเวลาเปิดกี่โมงถึงกี่โมงในช่วงกลางวัน แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนจะมีแม่ค้าออกมาเปิดร้านดอกไม้กันตามริมถนนข้างทางกันเยอะ แต่ร้านดอกไม้ใหญ่ ๆ ริมถนนก็อาจจะปิดได้ เพราะฉะนั้นจะไปเดินกลางวันหรือกลางคืนก็จะได้อารมณ์คนละแบบกัน
ร้านอาหารและจุดเช็กอินคาเฟ่ปากคลองตลาด
1.ร้านเสียวหลัง เมนูกะเพราไก่และไก่กระเทียมที่ต้องไปลองเปิดขายมาเกือบ 50 ปี เป็นเมนูธรรมดา ๆ แต่ไม่ธรรมดา เพราะรสชาติอร่อยเด็ดแซ่บถึงพริกถึงขิง และยังจัดเนื้อไก่มาให้แบบจุก ๆ เยอะได้ใจ และราคายังไม่แพงด้วย ร้านอยู่ปากคลองตลาดฝั่ง ถ.จักรเพชร ทางเข้าท่าเรืออัษฎางค์ ใกล้ MRT สนามไชยทางออกหมายเลข 4จากนั้นเดินมาทางสะพานเจริญรัช เลี้ยวขวาเข้าถนนจักรเพชร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือเปิดวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 06.00-17.00 น. ปิดวันเสาร์-อาทิตย์
2. Floral Cafe at Napasornร้านนภสร คาเฟ่ดอกไม้ สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟ เค้ก และขนมหวาน ๆ อิ่มอร่อยหลากหลายเมนูรูปแบบการตกแต่งภายในของคาเฟ่ซึ่งละลานตาไปด้วยของตกแต่งในแนววินเทจ คุมโทนด้วยสีเอิร์ธโทนของเฟอร์นิเจอร์ไม้ ผนังอิฐมอญที่ประดับด้วยกรอบรูปหลากหลายขนาดสัตว์สตัฟฟ์ตู้กระจก เซรามิก กระจกเงา ไปจนถึงแชนเดอเลียร์ที่ช่วยสร้างมิติและเรื่องราวให้ดูน่าสนใจ และที่ขาดไม่ได้ก็คือเหล่าต้นไม้ ดอกไม้สด และดอกไม้แห้งที่นำมาประดับตามมุมต่าง ๆ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.ตั้งอยู่ที่ปากคลองตลาด ตรงข้ามธ.ธนชาติ ตัวร้านเป็นแบบตึกแถวคูหาขนาดเล็ก โดยพื้นที่ชั้นร้านเปิดเป็นร้านจัดดอกไม้ ส่วนคาเฟ่ตั้งอยู่ชั้น 2 และ 3
3. ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค กินข้าวชมวิวพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ออกแบบและ
ตกแต่งใหม่ในสไตล์โคโลเนียล โดยเฉพาะร้านอาหารริมแม่น้ำที่มีทั้งสไตล์ไทยฟิวชั่น ร้านอาหารสไตล์ยุโรป-อเมริกัน ร้านอาหารซีฟู้ด และบาร์บรรยากาศดี จะมากับครอบครัว เพื่อน หรือคนพิเศษ ที่นี่ก็มีร้านอาหารและคาเฟ่ไว้รองรับทุกไลฟ์สไตล์อยู่บริเวณหลังตลาดยอดพิมาน เลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา การเดินทางรถยนต์ สามารถมาได้จากถนนจักรเพชร ถนนอัษฎางค์ ท่าเรืออัษฎางค์และMRT สนามไชยทางออกหมายเลข 5 สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง, โรงเรียนราชินี
4.Farm to table ฟาร์มทูเทเบิลร้านอยู่ภายใต้ตึกเก่าบนถนนอัษฎางค์ ย่านปากคลองตลาด ที่แม้จะเป็นคาเฟ่เล็ก ๆ มี 3-4 โต๊ะ แต่ก็เต็มไปด้วยรายละเอียดของการแต่งร้านที่น่ารักอบอุ่น ดูเป็นธรรมชาติ ด้วยโต๊ะจักรเก่า เก้าอี้ไม้อิงหมอนที่เย็บกันเอง ถ้วยชามจากชาวบ้านที่เชียงราย และของสะสมกระจุกกระจิกเมนูอาหารอาจไม่ได้เยอะแต่ก็เป็นสไตล์อาหารคอนเซปต์Farm to Table ที่ต้องการโชว์ความเจ๋งของวัตุดิบตามฤดูกาลออกมาให้ดีที่สุด ไฮไลท์ของ Farm To Table, Hideout อยู่ที่ขนมหวาน ที่ทางร้านนำขนมไทยมาประยุกต์ให้เข้ากับไอศกรีมที่ตีขึ้นมาเอง ส่วนใครมองหาเครื่องดื่มดี ๆ ทางร้านก็มี Slow Bar Coffee เอาใจคอกาแฟ เรียกว่าครบจบตั้งแต่อาหารยันเครื่องดื่มในร้านเดียวสาขา Farm to tableOrganic Café เป็นร้านเล็กๆขนาดประมาณ 10 ที่นั่ง อยู่ที่ปากซอยตลาดส่งเสริมเกษตรไทย เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา9.00-20.00น.และ Farm to table Hide outร้านอยู่ในตรอกเล็กๆ เดินเข้าจากประตูตลาดส่งเสริมเกษตรไทยเข้าไปประมาณ 50 เมตร เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปร้านจะอยู่ทางขวามือเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา9.00-19.00น.
5. ร้านปากหวาน at ปากคลอง ร้านอาหารคาเฟ่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เสิร์ฟพร้อมด้วยอาหารจานเดี่ยวและเครื่องดื่มที่จะทำให้คนเข้าถึงบรรยากาศดีๆ ใกล้ชิดแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมทิวทัศน์ที่สวยงาม เมนูง่ายๆ ก็มีให้เลือกทานเช่นผัดไทซีฟู้ด เหมาะสำหรับคนชอบทานอาหารทะเล ตั้งอยู่ตรงท่าเรือราชินีMRT สถานีสนามไชย (ทางออก 5) ประมาณ 50 เมตร
6. บุรินทร์กินข้าว เบอร์เกอร์ & สเต๊ก Homemade Burgera I Steaks I Food เป็นร้านเล็กๆ ที่อยู่ถนนบ้านหม้อมีเมนูหลายหลาก อาหารเช้า อาหารจานเดียว สปาเกตตี้ สเต๊ก เบอร์เกอร์ สลัด พร้อมทั้งอาหารทานเล่น เปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร เปิดตั้งแต่เวลา 11.00 – 21.00 น. โทร. 08-9145-4890 FB IG:Burinkinkao
7. ย่างเนย สะพานพุทธ ปรับเวลาบริการใหม่เป็น 16.30-23.00 น. ( เริ่มตั้งแต่ 1 ก.พ. 64 นี้) บรรยากาศชวนให้หลงใหลในการรับบุฟเฟ่ต์ราคาถูก ๆ เพียง 199.-บาท เหลือไม่ปรับ ไม่จำกัดเวลา สามารถโทรสอบถามสถานที่ เส้นทาง เวลาได้ที่เบอร์ 097-156-9970 ร้านอยู่ใน โครงการ ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค ปากคลองตลาด Yodpiman River Walk เดินจาก MRT สนามไชย เพียง 4 นาที ค่ะ
สถานที่ใกล้เคียงปากคลองตลาด
1. มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้สมัยใหม่เดินออกจากสถานีสนามไชยทางประตู 1 ก็
จะพาไปพบกับอาคารสไตล์โคโลเนียลสีเหลืองสวยงามตา อันเป็นที่ตั้งของมิวเซียมสยามนั่นเอง ที่นี่มีลักษณะเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรมไทย ซึ่งจัดนิทรรศการที่เน้นการสร้างประสบการณ์สดใหม่ ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และกิจกรรมสร้างสรรค์ ให้ผู้เข้าชมได้เล่น สัมผัส ทดลอง และร่วมสนุกด้วยตัวเอง มีทั้งนิทรรศการถาวร นิทรรศการหมุนเวียน และกิจกรรมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์
2. Site Museum หรือ มิวเซียมใต้ดินสถานีสนามไชย ตัวนิทรรศการจะโชว์ให้เห็นชั้นดินที่เป็นการทับซ้อนกันของประวัติศาสตร์ โดยด้านล่างคือชั้นดินสมัยอยุธยา ชั้นบนสุดคือยุคสมัยปัจจุบัน พร้อมการจัดแสดงโมเดลป้อม วัง และกระทรวง ให้เห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนไปในแต่ละยุคสมัยของพื้นที่เหนือชั้นผิวดิน
3. สะพานพุทธ เป็นจุดหนึ่งที่มีผู้คนมานั่งเฝ้ารอดูพระอาทิตย์ตก เป็นอีกมุมๆ หนึ่งที่สวย
และโรแมนติกบรรยากาศดีอบอุ่นด้วยผู้คนที่รายล้อม ความวินเทจผสมความโมเดิร์มที่ทำให้ทุกอย่างลงตัว
อย่างน่าแปลกจากปรากฏการธรรมชาติที่ไม่ธรรมดา
4 ปากคลองตลาด ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้ และเป็นสักการะบูชาสำหรับบุคคลที่ผ่านไปมาเป็นสถานที่จัดงานพระราชพิธีวันจักรี
5. สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา แลนด์มาร์กแห่งใหม่เป็นสวนสาธารณะลอยฟ้ากลางแม่น้ำที่เปิดให้
ประชาชนชมวิวที่สวยงามตลอดเส้นทางเดินโดยมีพันธุ์พืชที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของกรุงเทพฯมีต้นมะกอกน้ำเป็นไม้ยืนต้นหลัก และพันธุ์พืชอีกนานาชนิด เช่น ชาข่อย ใบต่างเหรียญ รัก หญ้าหนวดแมว ยี่โถ ชงโค ต้อยติ่ง เอื้องหมายนา เพิ่มพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ให้เมือง รวมทั้ง พืชบนสวนลอยฟ้ายังมีประโยชน์กับแมลงและระบบนิเวศโดยรวมด้วย
6. วัดราชบุรณราชวรวิหาร (วัดเลียบ) วัดเก่าแก่ที่คนรู้จักในชื่อว่า "วัดเลียบ" สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายโดยพ่อค้าชาวจีน ตั้งอยู่เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นวัดหนึ่งตามธรรมเนียมประเพณีโบราณที่ว่าในราชธานีจะต้องมีวัดสำคัญประจำเมือง คือวัดมหาธาตุ วัดราชประดิษฐ์ และวัดราชบุรณะ
ปากคลองตลาดเป็นตลาดดอกไม้ที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของกรุงเทพฯโดยสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ดอกไม้และผัก ผลไม้ ทุกวันของปากคลองตลาดนับตั้งแต่เวลากลางวันถึงเวลาดึกไม่เคยหยุดนิ่ง มักจะมีพ่อค้าแม่ค้าที่ขายดอกไม้ปลีก ร้อยพวงมาลัยขาย เปิดร้านดอกไม้รับจัดดอกไม้เป็นช่อ หรือหากใครที่ต้องการดอกไม้ไปใช้งานตกแต่งบ้านงานบุญต่างๆ งานบวช งานรับปริญญา งานต้อนรับ งานแต่งงาน จนถึงงานศพ ต่างก็ต้องเดินทางมาซื้อดอกไม้ในราคาส่งจากตลาดปากคลอง ดอกไม้จากแหล่งปลูกทั่วประเทศล้วนถูกส่งมารวมกันที่ปากคลองทั้งสิ้นนอกจากนี้ตลาดปากคลองยังเป็นศูนย์รวมของผักและผลไม้สดที่มาจากสวน ผลผลิตของเกษตรกรในประเทศส่วนหนึ่งถูกส่งมาที่ปากคลองตลาด ซึ่งถ้าลูกค้าคนใดต้องการผลผลิตสดๆ ใหม่ๆ ของเกษตรกรทั่วประเทศ ที่ส่งตรงจากแหล่งผลิตทุกวัน ก็สามารถมาหาซื้อได้ที่ปากคลองตลาดแห่งนี้ได้เช่นกัน
ประวัติ
ในสมัยหนึ่งเคยเป็นตลาดปลามาก่อน เป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุด มีเรือบรรทุกปลาทะเลมาจากท่าจีน (สมุทรสาคร) บรรทุกเรือแจวมาทางปากคลองบางกอกใหญ่ มาขึ้นที่ปากคลองตลาด ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีการประกาศยกเลิกตลาดปลาแห่งนี้ให้ไปรวมอยู่ที่ตำบลวัวลำพอง (หัวลำโพงในปัจจุบัน) นอกจากนี้ในส่วนของพื้นที่ซึ่งเป็นตลาดปากคลอง ในอดีตเคยเป็นโรงเรียนสอนภาษาจีนกลางมาก่อน หลังจากโรงเรียนได้ถูกรื้อลงจึงมีการสร้างอาคารขึ้น แต่ทว่าก่อนหน้าที่จะมีการสร้างตึกในบริเวณปากคลองตลาดนี้ ภาพของการค้าขายบริเวณปากคลองได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว โดยในสมัยเมื่อประมาณ 40 ปีมาแล้ว ปากคลองตลาดเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าของตนริมน้ำ ประกอบกับพ่อค้าแม้ค้าจากที่อื่นพายเรือมาชุมนุมกันในบริเวณนี้ กลายเป็นตลาดน้ำย่อมๆ ส่วนมากเป็นเรือที่มาจากสวนแถบบางกรวย นนทบุรี พ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือมาชุมนุมค้าขายดังกล่าวนั้นจะไม่อาศัยท่าปากคลองเป็นที่ทำการซื้อขายถาวร หากแต่เคลื่อนที่ไปมาระหว่างปากคลองตลาดกับท่าเตียน กล่าวคือ พ่อค้าแม่ค้าที่พายเรือมาจากสวนต่างๆทางฝั่งธนบุรีจะอาศัยท่าเตียนบ้าง ท่าปากคลองตลาดบ้างเป็นที่ชุมนุมซื้อขายสินค้า ในอดีตสมัยที่ผู้คนนิยมเดินทางและค้าขายทางเรือบริเวณท่าเตียนและท่าปากคลองตลาดดังกล่าวจึงเป็นแหล่งชุมนุมของเรือสินค้า เรือแจว รวมทั้งเรือนแพของประชาชน
สำหรับที่มาของคำว่า “ปากคลองตลาด” เริ่มตั้งแต่สมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ทรงโปรดฯ ให้ขุดคลองหลายสาย โดยมีคลองเล็กสายหนึ่ง ที่ขุดขึ้นข้างวัดบูรณศิริอมาตยาราม ทำให้เกิดชุมชนริมน้ำขนาดใหญ่ ที่เรียกในสมัยก่อนว่า "คลองตลาด" และในย่านที่ไม่ไกลกัน ก็มีการขุดคลองในขึ้นอีกสายหนึ่ง โดยทั้ง 2 คลอง ได้กลายมาเป็นแหล่งค้าปลาแห่งเดียวกัน และเปลี่ยนจากตลาดค้าปลาไปที่อื่นแทน ทำให้ตลาดแห่งนี้แปรสภาพเป็นตลาดสดที่มีสินค้าเกษตรกรรมจนถึงปัจจุบัน ทำให้มีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวต่างชาติ เริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวถ่ายรูปกับดอกไม้แถวปากคลองตลาดมากขึ้น ทำให้มีสิ่งใหม่ๆ เข้ามาทดแทน เราจึงเรียกตลาดแห่งนี้ว่า "ปากคลองตลาด"
ที่มา:ชมรมคนรักปากคลองตลาด
ปัจจุบัน ปากคลองตลาดประกอบด้วยตลาดหลัก 3 แห่งได้แก่
1. ตลาดองค์การตลาด ตลาดของรัฐ สังกัดกระทรวงมหาดไทยมีซอยท่ากลางเป็นจุดขายผักที่ผู้คนขวักไขว่มากที่สุด เพราะเป็นบริเวณขนถ่ายสินค้าและมีที่จอดรถ
2. ตลาดยอดพิมาน ตลาดเอกชนอยู่ถัดจากซอยท่ากลาง
3. ตลาดส่งเสริมเกษตรไทย ตลาดเอกชนอยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดองค์การตลาดและตลาดยอดพิมาน
ปากคลองตลาด เดินชมดอกไม้ ถ่ายรูปฟีลลิ่งฟูลบูมหวาน ๆ ก็ได้ เท่ ๆ ก็ดีเดินออกจากสถานีสนามไชย ประตูทางออก 4 แล้วเดินข้ามมาทางฝั่งถนนจักรเพชร ก็จะพบเจอกับอาณาจักรดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีร้านขายดอกไม้ตั้งเรียงรายอยู่ริมถนนมากมาย หลากหลายสีสัน บรรยากาศสดใส มีทั้งดอกไม้ไทยและนำเข้าจากต่างประเทศ บางร้านก็เป็นร้านจัดดอกไม้ จัดวางเป็นช่อ ๆ มองไปทางไหนก็สวยงามไปหมด
เปิดทั้งวันทั้งคืน 12:00AM - 12:00PM ขึ้นอยู่กับว่าร้านดอกไม้แต่ละร้านหรือโซนแต่ละโซนจะมีเวลาเปิดกี่โมงถึงกี่โมงในช่วงกลางวัน แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนจะมีแม่ค้าออกมาเปิดร้านดอกไม้กันตามริมถนนข้างทางกันเยอะ แต่ร้านดอกไม้ใหญ่ ๆ ริมถนนก็อาจจะปิดได้ เพราะฉะนั้นจะไปเดินกลางวันหรือกลางคืนก็จะได้อารมณ์คนละแบบกัน
ร้านอาหารและจุดเช็กอินคาเฟ่ปากคลองตลาด
1.ร้านเสียวหลัง เมนูกะเพราไก่และไก่กระเทียมที่ต้องไปลองเปิดขายมาเกือบ 50 ปี เป็นเมนูธรรมดา ๆ แต่ไม่ธรรมดา เพราะรสชาติอร่อยเด็ดแซ่บถึงพริกถึงขิง และยังจัดเนื้อไก่มาให้แบบจุก ๆ เยอะได้ใจ และราคายังไม่แพงด้วย ร้านอยู่ปากคลองตลาดฝั่ง ถ.จักรเพชร ทางเข้าท่าเรืออัษฎางค์ ใกล้ MRT สนามไชยทางออกหมายเลข 4จากนั้นเดินมาทางสะพานเจริญรัช เลี้ยวขวาเข้าถนนจักรเพชร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือเปิดวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 06.00-17.00 น. ปิดวันเสาร์-อาทิตย์
2. Floral Cafe at Napasornร้านนภสร คาเฟ่ดอกไม้ สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟ เค้ก และขนมหวาน ๆ อิ่มอร่อยหลากหลายเมนูรูปแบบการตกแต่งภายในของคาเฟ่ซึ่งละลานตาไปด้วยของตกแต่งในแนววินเทจ คุมโทนด้วยสีเอิร์ธโทนของเฟอร์นิเจอร์ไม้ ผนังอิฐมอญที่ประดับด้วยกรอบรูปหลากหลายขนาดสัตว์สตัฟฟ์ตู้กระจก เซรามิก กระจกเงา ไปจนถึงแชนเดอเลียร์ที่ช่วยสร้างมิติและเรื่องราวให้ดูน่าสนใจ และที่ขาดไม่ได้ก็คือเหล่าต้นไม้ ดอกไม้สด และดอกไม้แห้งที่นำมาประดับตามมุมต่าง ๆ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.ตั้งอยู่ที่ปากคลองตลาด ตรงข้ามธ.ธนชาติ ตัวร้านเป็นแบบตึกแถวคูหาขนาดเล็ก โดยพื้นที่ชั้นร้านเปิดเป็นร้านจัดดอกไม้ ส่วนคาเฟ่ตั้งอยู่ชั้น 2 และ 3
3. ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค กินข้าวชมวิวพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ออกแบบและ
ตกแต่งใหม่ในสไตล์โคโลเนียล โดยเฉพาะร้านอาหารริมแม่น้ำที่มีทั้งสไตล์ไทยฟิวชั่น ร้านอาหารสไตล์ยุโรป-อเมริกัน ร้านอาหารซีฟู้ด และบาร์บรรยากาศดี จะมากับครอบครัว เพื่อน หรือคนพิเศษ ที่นี่ก็มีร้านอาหารและคาเฟ่ไว้รองรับทุกไลฟ์สไตล์อยู่บริเวณหลังตลาดยอดพิมาน เลียบริมแม่น้ำเจ้าพระยา การเดินทางรถยนต์ สามารถมาได้จากถนนจักรเพชร ถนนอัษฎางค์ ท่าเรืออัษฎางค์และMRT สนามไชยทางออกหมายเลข 5 สถานีตำรวจนครบาลพระราชวัง, โรงเรียนราชินี
4.Farm to table ฟาร์มทูเทเบิลร้านอยู่ภายใต้ตึกเก่าบนถนนอัษฎางค์ ย่านปากคลองตลาด ที่แม้จะเป็นคาเฟ่เล็ก ๆ มี 3-4 โต๊ะ แต่ก็เต็มไปด้วยรายละเอียดของการแต่งร้านที่น่ารักอบอุ่น ดูเป็นธรรมชาติ ด้วยโต๊ะจักรเก่า เก้าอี้ไม้อิงหมอนที่เย็บกันเอง ถ้วยชามจากชาวบ้านที่เชียงราย และของสะสมกระจุกกระจิกเมนูอาหารอาจไม่ได้เยอะแต่ก็เป็นสไตล์อาหารคอนเซปต์Farm to Table ที่ต้องการโชว์ความเจ๋งของวัตุดิบตามฤดูกาลออกมาให้ดีที่สุด ไฮไลท์ของ Farm To Table, Hideout อยู่ที่ขนมหวาน ที่ทางร้านนำขนมไทยมาประยุกต์ให้เข้ากับไอศกรีมที่ตีขึ้นมาเอง ส่วนใครมองหาเครื่องดื่มดี ๆ ทางร้านก็มี Slow Bar Coffee เอาใจคอกาแฟ เรียกว่าครบจบตั้งแต่อาหารยันเครื่องดื่มในร้านเดียวสาขา Farm to tableOrganic Café เป็นร้านเล็กๆขนาดประมาณ 10 ที่นั่ง อยู่ที่ปากซอยตลาดส่งเสริมเกษตรไทย เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา9.00-20.00น.และ Farm to table Hide outร้านอยู่ในตรอกเล็กๆ เดินเข้าจากประตูตลาดส่งเสริมเกษตรไทยเข้าไปประมาณ 50 เมตร เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปร้านจะอยู่ทางขวามือเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา9.00-19.00น.
5. ร้านปากหวาน at ปากคลอง ร้านอาหารคาเฟ่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เสิร์ฟพร้อมด้วยอาหารจานเดี่ยวและเครื่องดื่มที่จะทำให้คนเข้าถึงบรรยากาศดีๆ ใกล้ชิดแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมทิวทัศน์ที่สวยงาม เมนูง่ายๆ ก็มีให้เลือกทานเช่นผัดไทซีฟู้ด เหมาะสำหรับคนชอบทานอาหารทะเล ตั้งอยู่ตรงท่าเรือราชินีMRT สถานีสนามไชย (ทางออก 5) ประมาณ 50 เมตร
6. บุรินทร์กินข้าว เบอร์เกอร์ & สเต๊ก Homemade Burgera I Steaks I Food เป็นร้านเล็กๆ ที่อยู่ถนนบ้านหม้อมีเมนูหลายหลาก อาหารเช้า อาหารจานเดียว สปาเกตตี้ สเต๊ก เบอร์เกอร์ สลัด พร้อมทั้งอาหารทานเล่น เปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร เปิดตั้งแต่เวลา 11.00 – 21.00 น. โทร. 08-9145-4890 FB IG:Burinkinkao
7. ย่างเนย สะพานพุทธ ปรับเวลาบริการใหม่เป็น 16.30-23.00 น. ( เริ่มตั้งแต่ 1 ก.พ. 64 นี้) บรรยากาศชวนให้หลงใหลในการรับบุฟเฟ่ต์ราคาถูก ๆ เพียง 199.-บาท เหลือไม่ปรับ ไม่จำกัดเวลา สามารถโทรสอบถามสถานที่ เส้นทาง เวลาได้ที่เบอร์ 097-156-9970 ร้านอยู่ใน โครงการ ยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ค ปากคลองตลาด Yodpiman River Walk เดินจาก MRT สนามไชย เพียง 4 นาที ค่ะ
สถานที่ใกล้เคียงปากคลองตลาด
1. มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้สมัยใหม่เดินออกจากสถานีสนามไชยทางประตู 1 ก็
จะพาไปพบกับอาคารสไตล์โคโลเนียลสีเหลืองสวยงามตา อันเป็นที่ตั้งของมิวเซียมสยามนั่นเอง ที่นี่มีลักษณะเป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรมไทย ซึ่งจัดนิทรรศการที่เน้นการสร้างประสบการณ์สดใหม่ ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และกิจกรรมสร้างสรรค์ ให้ผู้เข้าชมได้เล่น สัมผัส ทดลอง และร่วมสนุกด้วยตัวเอง มีทั้งนิทรรศการถาวร นิทรรศการหมุนเวียน และกิจกรรมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์
2. Site Museum หรือ มิวเซียมใต้ดินสถานีสนามไชย ตัวนิทรรศการจะโชว์ให้เห็นชั้นดินที่เป็นการทับซ้อนกันของประวัติศาสตร์ โดยด้านล่างคือชั้นดินสมัยอยุธยา ชั้นบนสุดคือยุคสมัยปัจจุบัน พร้อมการจัดแสดงโมเดลป้อม วัง และกระทรวง ให้เห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนไปในแต่ละยุคสมัยของพื้นที่เหนือชั้นผิวดิน
3. สะพานพุทธ เป็นจุดหนึ่งที่มีผู้คนมานั่งเฝ้ารอดูพระอาทิตย์ตก เป็นอีกมุมๆ หนึ่งที่สวย
และโรแมนติกบรรยากาศดีอบอุ่นด้วยผู้คนที่รายล้อม ความวินเทจผสมความโมเดิร์มที่ทำให้ทุกอย่างลงตัว
อย่างน่าแปลกจากปรากฏการธรรมชาติที่ไม่ธรรมดา
4 ปากคลองตลาด ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้ และเป็นสักการะบูชาสำหรับบุคคลที่ผ่านไปมาเป็นสถานที่จัดงานพระราชพิธีวันจักรี
5. สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา แลนด์มาร์กแห่งใหม่เป็นสวนสาธารณะลอยฟ้ากลางแม่น้ำที่เปิดให้
ประชาชนชมวิวที่สวยงามตลอดเส้นทางเดินโดยมีพันธุ์พืชที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของกรุงเทพฯมีต้นมะกอกน้ำเป็นไม้ยืนต้นหลัก และพันธุ์พืชอีกนานาชนิด เช่น ชาข่อย ใบต่างเหรียญ รัก หญ้าหนวดแมว ยี่โถ ชงโค ต้อยติ่ง เอื้องหมายนา เพิ่มพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ให้เมือง รวมทั้ง พืชบนสวนลอยฟ้ายังมีประโยชน์กับแมลงและระบบนิเวศโดยรวมด้วย
6. วัดราชบุรณราชวรวิหาร (วัดเลียบ) วัดเก่าแก่ที่คนรู้จักในชื่อว่า "วัดเลียบ" สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลายโดยพ่อค้าชาวจีน ตั้งอยู่เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า เป็นวัดหนึ่งตามธรรมเนียมประเพณีโบราณที่ว่าในราชธานีจะต้องมีวัดสำคัญประจำเมือง คือวัดมหาธาตุ วัดราชประดิษฐ์ และวัดราชบุรณะ
7. พื้นที่ของตลาดพาหุรัดมีบริเวณกว้างจรดถนนหลายสาย แต่ส่วนที่เป็นตัวตลาดจริงนั้นจะอยู่ใจกลางของพื้นที่ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นตลาดเก่า โดยรอบจะเป็นร้านค้า อาคารพาณิชย์มีของขายหลายอย่างทั้งเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัวอาหารและของใช้ต่างๆ ส่วนมากจะเป็นของพวกแขก หรือเป็นย่านลิดเติ้ลอินเดียของกรุงเทพฯ
8. ดิโอลด์สยามช้อปปิ้งพลาซ่า ประกอบด้วยพื้นที่ช้อปปิ้ง 3 ชั้น ซึ่งมีสินค้าหลากหลาย อาทิเช่น เสื้อผ้า ของประดับสุภาพสตรี กระเป๋า รองเท้า ทอง เพชร เครื่องดนตรีไทย ฯลฯ ดิโอลด์สยาม เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นแหล่งซื้อ ผ้าไหมชั้นเยี่ยมของกรุงเทพ ซึ่งมีทั้งผ้าไหมชิ้นและชุดผ้าไหมสำเร็จรูป นอกจากนั้นยังมีลานเฟื่องนครซึ่งขึ้นชื่อ เรื่องร้านขนมไทยและอาหารไทย ที่มีรสชาติอร่อยและมีความหลากหลาย เปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตั้งแต่ 10.00 ถึง 19.00
9. ตลาดบ้านหม้อ เป็นแหล่งรวบรวม ร้านค้าอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์เครื่องมือวัดไฟฟ้า,ดิจิตอลมัลติมิเตอร์,เครื่องเสียง ตลอดจนสินค้าอิเล็คทรอนิกส์เทคโนโลยีใหม่ๆที่นำเข้ามาจากจีน หรือ ไต้หวันเปิดขายทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 – 18.00 น.
การเดินทางมาปากคลองตลาด
เรือด่วน : ขึ้นเรือด่วนธงสีฟ้าและสีส้ม ลงท่าเรือปากคลองตลาดหรือท่ายอดพิมาน
รถเมล์ : ลงป้ายหน้าปากคลองตลาด สาย 7ก, สาย 9, สาย 42, สาย 82, ปอ.9 และ ปอ.82
ลงป้ายสะพานพุทธฯ สาย 8, สาย 73, ปอ.8
รถไฟฟ้า BTS : ลงสะพานตากสิน แล้วต่อเรือด่วนเจ้าพระยา (ธงสีฟ้าและธงสีส้ม) ลงท่าเรือปากคลองตลาด
หรือท่ายอดพิมาน
รถไฟฟ้าใต้ดิน :สถานีสนามไชยทางออกหมายเลข 4 หรือ 5
รถยนต์ส่วนตัว : สามารถนำรถไปจอดได้ที่ตึกจอดรถของ Yodpiman River Walk คิดค่าบริการ 4 ชม.แรก 40 บาท เกินจากนั้นคิดชม.ละ 40 บาท
**จากราชดำเนินวิ่งเข้าถนนจักรเพชร ผ่านรร.สวนกุหลาบ ตรงมาเบี่ยงซ้ายเพื่อลอดใต้สะพานพุทธฯ
**จากถนนเจริญกรุง หรือเยาวราช เลี้ยวซ้ายเข้าถนนจักรวรรษ์ เลียบสะพานพระปกเกล้า ลงมาลอดใต้สะพานพุทธฯ
**จากฝั่งธนบุรี ขึ้นสะพานพระปกเกล้า ลงมาลอดใต้สะพานพุทธฯ
แบบสอบถามความพึงพอใจของการใช้งานเว็บไซต์ Insight Pranakorn