กทม.ลงนามเช่าที่ดินวัดปากน้ำ สร้างโรงพยาบาลย่านภาษีเจริญ

(24 ก.ย. 67) เวลา 15.30 น. รศ.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาเช่าที่ดินวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทโร) โดยมี พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เป็นผู้ลงนามในสัญญาเช่าฯ ฝ่ายวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และ ดร.พญ.เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ เป็นผู้ลงนามในสัญญาเช่าฯ ฝ่ายกรุงเทพมหานคร ณ ตึกวิเศษธรรมกาย (ชั้น 2) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร

จากนโยบายการขยายการเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณะสุขในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ของคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน ซึ่งมีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน แต่พบว่าในพื้นที่เขตภาษีเจริญและพื้นที่ใกล้เคียงยังไม่มีสถานพยาบาลของรัฐในการให้บริการ

และเมื่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ มีดำริถึงปัญหาความเดือดร้อนนี้พระพรหมโมลี เจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ จึงได้สานต่อดำริโดยประสานมายังพระธรรมวชิรคุณาธาร พิจารณาพื้นที่จำนวน 14 ไร่ 70 ตารางวา ของวัดปากน้ำภาษีเจริญ เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ทางด้านการแพทย์

โรงพยาบาลพระมงคลเทพมุนี จึงเกิดจากความร่วมมือของกรุงเทพมหานคร ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยระยะแรกอุปถัมภ์การก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและฉุกเฉิน จากผู้มีจิตศรัทธา และเริ่มเปิดให้บริการผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยฉุกเฉิน ในวันที่ 31 มีนาคม 2567 เปิดให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 8.00 – 16.00 น. ซึ่งมีโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เป็นทีมพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาในการดำเนินการ

พิธีลงนามสัญญาเช่าที่ดินวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทโร) เป็นไปตามมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 21/2567 อนุมัติให้วัดปากน้ำทำสัญญาเช่าที่ธรณีสงฆ์ของวัด โฉนดที่ดินเลขที่ 3252 หน้าสำรวจ 338 เลขที่ดิน 66 ตำบลบางแวก อำเภอภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 12 ไร่ และโฉนดที่ดินเลขที่ 144419 หน้าสำรวจ 2001 เลขที่ดิน 161 ตำบลคลองขวาง อำเภอภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 1 งาน 97.70 ตารางวา รวมเป็นเนื้อที่ทั้งหมดจำนวน 12 ไร่ 1 งาน 97.70 ตารางวา ให้แก่กรุงเทพมหานครเพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) มีกำหนดเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ถึงวันที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2597 โดยคิดค่าเช่าในอัตราร้อยละ 1 ของราคาประเมินที่ดินและ ให้ปรับเพิ่ม 15% ทุกระยะเวลา 5 ปี จนครบอายุสัญญาเช่า เป็น ๖ ระยะ ในอัตราค่าเช่า ดังนี้

ระยะที่ 1 (ปีงบประมาณ 2568 - 2572) ค่าเช่าปีละ 384,000 บาท (ให้งดเก็บค่าเช่า)

ระยะที่ 2 (ปีงบประมาณ 2573 - 2577) ค่าเช่าปีละ 441,600 บาท

ระยะที่ 3 (ปีงบประมาณ 2578 - 2582) ค่าเช่าปีละ 507,840 บาท

ระยะที่ 4 (ปีงบประมาณ 2583 - 2587) ค่าเช่าปีละ 584,016 บาท

ระยะที่ 5 (ปีงบประมาณ 2588 - 2592) ค่าเช่าปีละ 671,619 บาท

ระยะที่ 6 (ปีงบประมาณ 2593 - 2597) ค่าเช่าปีละ 772,362 บาท

รวม 30 ปี เป็นเงินทั้งสิ้น 14,887,185 บาท

ในส่วนแผนในระยะถัดไป ดำเนินการก่อสร้างอาคารหลัก สูง 9 ชั้นและชั้นใต้ดิน รวมถึงอาคารสนับสนุน และภูมิทัศน์โดยรอบ เป็นเงินทั้งสิ้น 1,000,000,000 บาท สามารถขยายขนาดเป็นโรงพยาบาลทั่วไป 150 เตียง เพื่อให้ดูแลประชาชนในพื้นที่เขตภาษีเจริญ และพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่เขตบางแค เขตบางบอน เขตราษฎร์บูรณะ เขตจอมทอง เขตธนบุรี เขตบางกอกใหญ่ เขตตลิ่งชัน รวมประชาชนที่จะได้รับประโยชน์จากการได้รับบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ กว่า 945,000 ราย ลดการสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนได้รับบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างทั่วถึงและครอบคลุม

#50th #กรุงเทพเมืองสุขภาพดีเชื่อมั่นสำนักการแพทย์

#PRMSD #MSD #สำนักการแพทย์ #กรุงเทพมหานคร

#หมอกทม #BMADoctor

--------------------------------------

สามารถติดตามข่าวสารต่างๆได้ที่

FB / IG / X / TikTok / Youtube : สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร

LINE Square : ศูนย์ข้อมูลข่าวสารสุขภาพ MIL Center

Hotline 1646 : สายด่วนสุขภาพ สำนักการแพทย์ กทม.

E-Book สำนักการแพทย์ : https://shorturl.asia/pg37X

Application : หมอ กทม. : https://bmadoctor.msdbangkok.go.th/app/bma