เตือน!!!ใช้แปรงสีฟันไม่ได้คุณภาพ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนหากเลือกใช้แปรงสีฟันที่ไม่ได้คุณภาพ อาจทำให้ฟันสึก ระคายเคืองเหงือก เกิดแผลในช่องปาก แนะอ่านฉลากแปรงสีฟัน ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเปรงสีฟัน เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพช่องปาก รวมทั้งเลือกแปรงสีฟันที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า แปรงสีฟันเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำคัญที่สุด ในการทำความสะอาดช่องปาก ซึ่งทุกคนต้องใช้เป็นประจำทุกวัน การใช้แปรงสีฟันที่ไม่ได้คุณภาพ นอกจากจะทำให้การทำความสะอาดช่องปากไม่มีประสิทธิภาพแล้ว อาจให้ฟันสึก เหงือกร่น เพราะขนแปรงสีฟันที่แข็งเกินไป ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อขอบเหงือก เกิดแผลในช่องปาก รวมทั้ง หากแรงยึดกระจุกขนแปรงกับหัวแปรงต่ำกว่ามาตรฐาน อาจทำให้ขนแปรงหลุดจากหัวแปรงในขณะใช้งานได้ หรือการใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดใหญ่กว่าช่องปากมากเกินไป จะทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดซี่ฟันด้านใน กรมอนามัยจึงแนะนำประชาชนใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม ปลายขนแปรงไม่มีความคม และมีขนาดพอเหมาะกับช่องปาก โดยอ่านฉลากแปรงสีฟันก่อนซื้อ ซึ่งจะระบุเรื่อง ความอ่อนนุ่มของขนแปรง ลักษณะปลายขนแปรง วัสดุที่ใช้ผลิต และอายุที่เหมาะสมสำหรับแปรงสีฟันเด็ก เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพฟันและเหงือก รวมทั้งเลือกแปรงสีฟันที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย
ทางด้าน ทันตแพทย์หญิงวรางคนา เวชวิธี ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าวว่า แปรงสีฟันเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลากตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ที่ต้องระบุข้อมูลครบถ้วน แปรงสีฟันที่ดีจะไม่ทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อในช่องปากขณะที่แปรงฟัน ช่วยกำจัดคราบจุลินทรีย์ ลดโรคเหงือกอักเสบได้ วิธีการเลือกแปรงสีฟันที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน คือ 1) หัวแปรงสีฟันขนาดพอเหมาะกับช่องปากของตน ความกว้างหัวแปรงสีฟันผู้ใหญ่ไม่ควรเกิน 1.5 เซนติเมตร การใช้แปรงสีฟันที่มีขนาดใหญ่กว่าช่องปากมากเกินไปทำให้ไม่สามารถทำความสะอาดซี่ฟันด้านใน 2) ขนแปรงชนิดปานกลาง (medium) นุ่ม (soft) หรือนุ่มพิเศษ (extra soft) เพื่อลดการทำอันตรายต่อผิวฟัน และขอบเหงือก 3) ด้ามจับแปรงสีฟันยาวพอเหมาะ จับได้ถนัดมือ 4) ปลายขนแปรงแบบมนกลมหรือเรียวแหลม และ 5) ลักษณะปลายขนแปรงเรียบเสมอกัน เพื่อให้แปรงสีฟันแนบกับผิวฟันบริเวณคอฟันมากที่สุด เนื่องจากบริเวณคอฟัน เป็นตำแหน่งที่พบคราบอาหารมากที่สุดบนผิวฟัน สำหรับวิธีการเลือกแปรงสีฟันเด็ก ควรเลือกแปรงเล็ก กว้างไม่เกิน 1 เซนติเมตร ยาวไม่เกิน 2 เซนติเมตร หรือคลุมฟันไม่เกิน 3 ซี่ ขนแปรงอ่อนนุ่ม ไม่คม และมีด้ามแปรงยาวพอสำหรับผู้ใหญ่จับได้ถนัดเวลาแปรงฟันให้เด็ก
“ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ออกประกาศให้แปรงสีฟันทุกยี่ห้อทุกรุ่น ต้องระบุข้อมูล 5 ข้อ คือ 1) ความอ่อนแข็งของขนแปรง 2) ลักษณะปลายขนแปรงฟัน เช่น ปลายมน ปลายเรียวแหลม 3) วัสดุที่ใช้ทำขนแปรงและด้ามแปรง 4) วิธีใช้ ข้อแนะนำ และ 5) แปรงสีฟันเด็กต้องระบุกลุ่มอายุที่เหมาะสมบนฉลากด้วย เช่น ต่ำกว่า 3 ปี 3-6 ปี 6-12 ปี เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลเพียงพอใช้ประกอบการเลือกแปรงสีฟัน นอกจากนี้ ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันทุก 3 เดือน และเมื่อแปรงฟันเสร็จ ต้องล้างให้สะอาด สะบัดแปรงสีฟันให้น้ำออกให้หมด เก็บในที่แห้ง มีอากาศถ่ายเท โดยวางแปรงสีฟันในแนวตั้ง และไม่ควรเก็บในกล่องเก็บหัวแปรง เพราะจะทำให้แห้งยาก เกิดการสะสมของเชื้อโรคได้ และไม่ควรเก็บแปรงสีฟันรวมๆกัน เพราะหากมีผู้ป่วย จะเป็นการแพร่เชื้อโรค” ผู้อำนวยการสำนักทันตสาธารณสุข กล่าว
เครดิตแหล่งข้อมูลจากเว็บไซต์ https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/080966/