วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559
รู้ทันไข้หวัด
โรคไข้หวัดเป็นโรคติดต่อที่เกิดขึ้นทุกปี หากติดเชื้อแล้วก็ทำให้เกิดการเจ็บป่วย หยุดงาน หรือหยุดเรียนตามมาก หากเป็นไข้หวัดธรรมดาก็หายได้เองในเวลาไม่กี่วัน หากเป็นไข้หวัดใหญ่ก็จะเกิดอาการมากกว่าไข้หวัดธรรมดา และใช้เวลานานกว่าจะหาย และหากไข้หวัดใหญ่เกิดในผู้ที่ไม่แข็งแรงก็จะเพิ่มอัตราการเสียชีวิตสูง
หากไข้หวัดที่เกิดการระบาดเป็นไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่ร่างกายของคนทั่วไปยังไม่มีภูมิคุ้มกันก็จะเกิดการระบาดใหญ่ และมีผู้เสียชีวิตมากมาย ดังนั้นการมีสุขอนามัยที่ถูกต้องเกี่ยวกับการป้องกันไข้หวัดใหญ่จะเป็นการป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดได้ทุกชนิด วิธีการป้องกันมีดังนี้
การล้างมือ
การล้างมือเป็นวิธีที่ง่ายที่จะกำจัดเชื้อที่อยู่บนมือ เนื่องจากเชื้อที่เปื้อนมือเมื่อใช้มือหยิบของขึ้นรับประทานก็จะได้รับเชื้อนั้นเข้าไป ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเพียงใช้สบู่ธรรมดาก็เพียงพอ เพียงแค่ล้างมือให้ถูกวิธี
การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
สำหรับเชื้อไข้หวัดธรรมดาจะไม่มีการฉีดวัคซีนเนื่องจากคนส่วนใหญ่จะมีภูมิต่อเชื้อไข้หวัดธรรมดา และหากเป็นก็มักจะไม่รุนแรง วัคซีนที่ฉีดจะเป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่คาดว่าจะระบาดในปีต่อไป บุคคลที่สำควรฉีดได้แก่ผู้ป่วยที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือหากติดแล้วมีโอกาศเสียชีวิตสูง กลุ่มดังกล่าวได้แก่ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภูมิบกพร่องทั้งจากยาหรือจากโรค ผู้ป่วยโรคมะเร็ง เบาหวาน โรคตับ โรคไต โรคเลือด โรคหัวใจ
เตียมอุปกรรณ์สำหรับการดูแลตัวเอง
เมื่อเข้าสู่ช่วงระบาดเราควรจะเตรียมความพร้อมสำหรับรับมือการระบาด เพราะช่วงที่โรคระบาดไม่ควรที่จะออกไปที่ชุมชนซึ่งจะเพิ่มโอกาศการติดเชื้อ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมได้แก่ ยาแก้ปวดลดไข้ควรใช้พาราเซ็ตตามอล ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก ยาที่ท่านต้องรับประจำเพื่อหลีกเลี่ยงการไปโรงพยาบาลในช่วงโรคระบาด กระดาษชำระ สบู่ ปรอทวัดไข้ หน้ากากอนามัย อาหารสำหรับเวลาเจ็บป่วย เช่นน้ำซุปต่างๆ
การใช้หน้ากากอนามัย
การใช้หน้ากากอนามัยจะเป็นการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัส การใส่หน้ากากอนามัยควรจะให้ผู้ป่วยสวมหากมีอาการไข้หวัด หน้ากากอนามัยจะช่วยกรองเชื้อจากน้ำลายและเสมหะ สำหรับผู้ที่ดูแลควรจะสวมใส่หน้ากากอนามัยที่สามารถกันเชื้อที่ออกมาทางเสมหะได้
การเรียนรู้โรคไข้หวัดใหญ่
ก่อนระบาดให้เรียนรู้โรคไข้หวัด และอาการของเชื้อโรคที่กำลังระบาด สิ่งที่ต้องเรียนรู้คือ วิธีการติดต่อของโรค การป้องกันการติดต่อ การดูและและวิธีป้องกันตัวเองเมื่อป่วยเป็นโรค อาการของโรค อาการเตือนว่าจะต้องพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาล
การใช้ยาอย่างถูกต้อง
การเลือกใช้ยาอย่างถูกต้องจะลดโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากยาไม่แนะนำให้ใช้ยาที่มีส่วนผสมของยาหลายชนิด หากมีไข้ก็ใช้ยาลดไข้ มีน้ำมูกก็ใช้ยาลดน้ำมูก ไม่แนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่เกิดจากเชื้อไวรัส โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสจะหายได้เอง การให้ยาปฏิชีวนะจะทำให้เชื้อแบคทีเรียมีโอกาศดื้อยาเพิ่มขึ้น
หากป่วยก็ให้หยุดพัก
หากป่วยไม่หยุดก็จะทำให้หายจากโรคช้าลง และยังเป็นการแพร่เชื้อสู่เพื่อนร่วมงานอีกด้วย
ใช้อุปกรณ์ใช้แล้วทิ้ง
หากมีสมาชิกในครอบครัวป่วยเป็นไข้หวัดจะต้องปรับการใช้ของร่วมกันให้แยกกันใช้ ผ้าเช็ดมือให้ใช้กระดาษชำระแทน แก้วน้ำ จาน ชาม ช้อน ให้แยกใช้สาวนบุคคล
ใช้ยาทางเลือกในการดูแลอาการ
หากมีอาการไอ น้ำผึ้งหนึ่งช้อนชาหรือหนึ่งช้อนโต๊ะจะช่วยท่านลดอาการได้ แต่ห้ามใช้กับเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี ส่วนสมุนไพรให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลท่าน
ให้ดื่มน้ำเพิ่มขึ้น
หากท่านป่วยเป็นไข้หวัดให้ดื่มน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อที่จะทำให้เสมหะออกง่ายขึ้น แนะนำให้ดื่มน้ำซุปหรือน้ำเกลือแร่ การดื่มชาร้อนก็จะช่วยให้ทางเดินหายใจอุ่นซึ่งจะลดการคัดจมูก
ยาต้านไวรัส
เชื้อไวรัสยังไม่มียารักษา และส่วนใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยารักษา นอกจากจะมีข้อบ่งชี้ในการให้ยาต้านไวรัสบางชนิด และควรจะได้ยาภายใน 48 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการ
ที่มา http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/infectious