โรคพิษสุนัขบ้า สาเหตุ อาการ วิธีป้องและรักษาโรคพิษสุนัขบ้า

วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560
image
โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ (Hydrophobia) ที่จัดว่าเป็นโรคที่อยู่ใกล้ตัวเราอีกโรคหนึ่ง โดยเฉพาะเหล่าบรรดาผู้ที่รักสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหลาย โดยมีสุนัขและแมวเป็นพาหะนำโรคอันดับต้น ๆ ของโรคนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งหากใครที่ติดเชื้อแล้วมักจะเสียชีวิตทุกราย ยังไม่มียารักษา มีเพียงการฉีดวัคซีนป้องกันเท่านั้น โดยจัดเป็นโรคที่มีผู้เสียชีวิตมากถึงปีละกว่าสามหมื่นคนเลยทีเดียว
สาเหตุของโรคพิษสุนัขบ้า
– โดนสัตว์ที่เป็นโรคนี้กัดหรือข่วนทำให้เชื้อไวรัสเรบีส์ (Rabies) เข้าสู่บาดแผลบริเวณที่ถูกกัดโดยตรง
– โดนสัตว์ที่ติดเชื้อเลียบริเวณร่างกายที่มีบาดแผล รอยถลอก หรือริมฝีปาก เป็นต้น
อาการของโรคพิษสุนัขบ้า
– ในระยะแรกที่ได้รับเชื้อจะมีอาการอักเสบที่สมองและเยื่อสมอง ทำให้ภายในสองถึงสามวันแรกจะรู้สึกเบื่ออาหารอ่อนเพลีย มีไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และจะรู้สึกแสบหรือคันบริเวณแผลที่ถูกสัตว์ที่เป็นโรคเลียหรือกัด
– ต่อมาจะเริ่มรู้สึกหงุดหงิด อยู่ไม่สุข กระสับกระส่าย กระวนกระวาย เริ่มอาละวาด
– จากนั้นต่อมาก็จะเริ่มกลายเป็นโรคซึมเศร้า เกิดความกลัวต่างๆ เช่น กลัวเสียงดัง หรือกลัวน้ำ ไม่ชอบอยู่ในที่ที่มีแสงสว่าง
– รู้สึกกลืนอาหารลำบาก เนื่องจากกล้ามเนื้อบริเวณที่ใช้กลืนเกิดการเกร็งตัว
– สุดท้ายจะเกิดอาการชักสลับกับสงบ และถึงขั้นหมดสติ หรือเป็นอัมพาต และเสียชีวิตในที่สุด

วิธีการรักษาและป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
– ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคพิษสุนัขบ้า มีเพียงการฉีดวัคซีนป้องกันเท่านั้น และหากเกิดโรคทำได้เพียงดูแลรักษาตามอาการ
– ให้คัดแยกผู้ป่วยออกจากสิ่งเร้าต่างๆ
– ต้องให้อาหารผู้ป่วยทางสายยาง เนื่องจากรับประทานอาหารไม่ได้
– สำหรับผู้ที่ดูแลผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าต้องใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด มีผ้าปิดจมูก และใส่แว่นตา เพื่อป้องกันการได้รับเชื้อจากผู้ป่วย

ทั้งนี้ หากใครที่ชอบเลี้ยงสุนัขและแมวควรนำสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า รวมทั้งคนในบ้านควรไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าไว้แต่เนิ่นๆ และหากโดนสุนัขหรือแมวจากที่อื่นเลียหรือกัดควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจรักษาและติดตามอาการต่อไป