.jpg)
วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2562
โรคซิฟิลิส (Syphilis)
โรคซิฟิลิส (Syphilis)
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum
โรคนี้ติดต่อกันอย่างไร
1 ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
2 ติดต่อจากแม่สู่ลูก
3 ติดต่อทางอื่น เช่น ผิวหนังที่มีแผล สัมผัสกับแผลที่มีเชื้อซิฟิลิส
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นซิฟิลิส
ในช่วงแรกอาจมีแผลที่อวัยวะเพศไม่เจ็บ หรือไม่อาการใดๆ ก็ได้ และถ้าไม่ได้รักษาแผลดังกล่าว อาจหายเองได้แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลแทรกซ้อนตามมา โรคมีระยะต่างๆ คือ
ซิฟิลิสระยะแรก (primary syphilis)
- มีตุ่มแดงแล้วแตกออกเป็นแผลบริเวณอวัยวะเพศชาย อัณฑะ ทวารหนัก ช่องคลอด หรือ ริมฝีปาก หลังจากได้รับเชื้อ 10-90 วัน
- มักเป็นแผลเดียวไม่เจ็บ ขอบนูนต่อมน้ำเหลืองโต กดไม่เจ็บ
- แผลจะเป็นอยู่ 1 – 5 สัปดาห์ และส่วนใหญ่จะหายไปเอง
- การตรวจเลือดในช่องนี้ให้ผลบวกได้ประมาณสองในสาม
ซิฟิลิสระยะที่สอง (Secondary syphilis)
- ผื่นสีแดงน้ำตาล ไม่คัน สามารถพบได้ทั่วตามตัวรวมทั้ง ฝ่ามือ ฝ่าเท้า มักเกิดในช่อง 2 – 3 สัปดาห์หลังจากแผลริมแข็งหายแล้ว
- อาจมีไข้ ปวดตามข้อ
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- ผมร่วงเป็นหย่อมๆ
- อาการอาจเป็น 1 – 3 เดือนแล้วหายไปเอง อาจกลับเป้นซ้ำในบางคน
- ตรวจเลือดในช่วงนี้ส่วนใหญ่ให้ผลบวก
ซิฟิลิสระยะแฝง (Larent syphilis)
ช่วงนี้ไม่ได้มีอาการใดๆ เป็นช่วง 2 – 30 ปีหลังจากรับเชื้อ การวินิจฉัยโรคนี้อาจทำได้โดยการเจาะเลือด มารดาที่ตั้งครรภ์และดรคระยะนี้เชื้อซิฟิลิสสามารถติดต่อไปยังลูกได้
ซิฟิลิสระยะหลัง (Tertiary syphilis)
ซิฟิลิสระยะ Late stage ระยะนี้เป็นช่วง 2 – 30 ปี หลังรับเชื้อเชื้อซิฟิลิสจำทำลายอวัยวะภายในต่างๆเช่น หัวใจและหลอดเลือดสมอง ทำให้อ่อนแรง หรือ อาจจะตาบอดได้ หากรักษาไม่ทันท่วงที อวัยวะต่างๆจะถูกทำลาย และไม่สามารถกลับคืนเป้นปกติระยะนี้การตรวจเลือดอาจให้ผลบวกประมาณหนึ่งในสาม
จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นซิฟิลิส
1 สามารถตรวจหาเชื้อจากแผลที่ปรากฏในระยะแรก
2 การตรวจเลือด เป็นการตรวจเพื่อหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อซิฟิลิส : VDRL,FTA-ABS TPHA,TPHA
ในกรณีที่มีอาการดังกล่าวข้างต้นการพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษา
เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum
โรคนี้ติดต่อกันอย่างไร
1 ติดต่อทางเพศสัมพันธ์
2 ติดต่อจากแม่สู่ลูก
3 ติดต่อทางอื่น เช่น ผิวหนังที่มีแผล สัมผัสกับแผลที่มีเชื้อซิฟิลิส
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นซิฟิลิส
ในช่วงแรกอาจมีแผลที่อวัยวะเพศไม่เจ็บ หรือไม่อาการใดๆ ก็ได้ และถ้าไม่ได้รักษาแผลดังกล่าว อาจหายเองได้แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดผลแทรกซ้อนตามมา โรคมีระยะต่างๆ คือ
ซิฟิลิสระยะแรก (primary syphilis)
- มีตุ่มแดงแล้วแตกออกเป็นแผลบริเวณอวัยวะเพศชาย อัณฑะ ทวารหนัก ช่องคลอด หรือ ริมฝีปาก หลังจากได้รับเชื้อ 10-90 วัน
- มักเป็นแผลเดียวไม่เจ็บ ขอบนูนต่อมน้ำเหลืองโต กดไม่เจ็บ
- แผลจะเป็นอยู่ 1 – 5 สัปดาห์ และส่วนใหญ่จะหายไปเอง
- การตรวจเลือดในช่องนี้ให้ผลบวกได้ประมาณสองในสาม
ซิฟิลิสระยะที่สอง (Secondary syphilis)
- ผื่นสีแดงน้ำตาล ไม่คัน สามารถพบได้ทั่วตามตัวรวมทั้ง ฝ่ามือ ฝ่าเท้า มักเกิดในช่อง 2 – 3 สัปดาห์หลังจากแผลริมแข็งหายแล้ว
- อาจมีไข้ ปวดตามข้อ
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- ผมร่วงเป็นหย่อมๆ
- อาการอาจเป็น 1 – 3 เดือนแล้วหายไปเอง อาจกลับเป้นซ้ำในบางคน
- ตรวจเลือดในช่วงนี้ส่วนใหญ่ให้ผลบวก
ซิฟิลิสระยะแฝง (Larent syphilis)
ช่วงนี้ไม่ได้มีอาการใดๆ เป็นช่วง 2 – 30 ปีหลังจากรับเชื้อ การวินิจฉัยโรคนี้อาจทำได้โดยการเจาะเลือด มารดาที่ตั้งครรภ์และดรคระยะนี้เชื้อซิฟิลิสสามารถติดต่อไปยังลูกได้
ซิฟิลิสระยะหลัง (Tertiary syphilis)
ซิฟิลิสระยะ Late stage ระยะนี้เป็นช่วง 2 – 30 ปี หลังรับเชื้อเชื้อซิฟิลิสจำทำลายอวัยวะภายในต่างๆเช่น หัวใจและหลอดเลือดสมอง ทำให้อ่อนแรง หรือ อาจจะตาบอดได้ หากรักษาไม่ทันท่วงที อวัยวะต่างๆจะถูกทำลาย และไม่สามารถกลับคืนเป้นปกติระยะนี้การตรวจเลือดอาจให้ผลบวกประมาณหนึ่งในสาม
จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นซิฟิลิส
1 สามารถตรวจหาเชื้อจากแผลที่ปรากฏในระยะแรก
2 การตรวจเลือด เป็นการตรวจเพื่อหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อซิฟิลิส : VDRL,FTA-ABS TPHA,TPHA
ในกรณีที่มีอาการดังกล่าวข้างต้นการพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษา
