สำนักสิ่งแวดล้อม ร่วมกิจกรรม ผู้ว่าฯ สัญจรเขตบึงกุ่ม รับฟังแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายและการรับมือสถานการณ์ PM2.5 ในปัจจุบัน

วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566
image

วันนี้ (4 พ.ย. 66) นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม  ร่วมกิจกรรม “ผู้ว่าฯ กทม. สัญจร เขตบึงกุ่ม” โดยมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุม เพื่อติดตามการบริหารจัดการและมอบแนวทางการปฏิบัติงานของสำนักงานเขตบึงกุ่ม รวมถึงความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมร่วมรับฟังแนวทางการดำเนินงานตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ณ สำนักงานเขตบึงกุ่ม

ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมฯ ในกิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร เขตบึงกุ่มว่า เขตบึงกุ่มเป็นเขตขนาดใหญ่พอสมควร มีพื้นที่ 3.5 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 137,000 คน เป็นเขตที่เป็นที่อยู่อาศัยเยอะ มีถนนหลักอยู่ 4-5 สาย อาทิ ถนนเสรีไทย ถนนนวมินทร์ ถนนนวลจันทร์ ปัญหาหลัก ๆ จะเป็นเรื่องน้ำท่วมต่าง ๆ ซึ่งได้รับการแก้ไขไปมากพอสมควรแล้ว อาจจะมีปัญหาเรื่องการเดินทาง ปัญหารถติด เพราะว่าเขตบึงกุ่มไม่มีขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ ไม่มีรถไฟฟ้าผ่าน รถเมล์ก็มีน้อย แต่โดยภาพรวมแล้วเขตบึงกุ่มทำเรื่อง Traffy Fondue ได้ค่อนข้างดีในเรื่องการแก้ไขปัญหาของประชาชน

ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเรื่องฝุ่น PM2.5 ว่า จะเห็นได้ว่าปัจจุบันยังไม่มีการเผาชีวมวลมาก แต่เป็นฝุ่นที่มาจากรถยนต์โดยตรง เราวัดฝุ่นเป็นไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เพราะฉะนั้นถ้าอากาศไม่ปิด อากาศปกติ อากาศเปิด ฝุ่นจากรถยนต์ในกรุงเทพฯ อยู่ประมาณ 20 ถึง 30 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ก็จะเป็นสีเขียวหรือเหลือง แต่พออากาศเริ่มปิดอย่างเช่นวันนี้อากาศเริ่มปิด ฝุ่นรถยนต์เหมือนเดิม แต่จะเพิ่มมาเป็นประมาณ 50-60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คือเริ่มสีเหลือง สีส้มตามมาตรฐานใหม่ ส่วนอนาคตถ้าเกิดมีฝุ่นจากด้านนอกมา เช่น เผาชีวมวล บวกรถยนต์ บวกอากาศปิด ค่าฝุ่นก็จะเป็น 90 หรือ 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวัง

คำถามว่าตอนนี้ทำอย่างไรได้บ้าง กทม.มีเรื่องที่ดำเนินการอยู่ คือ ตรวจรถควันดำ และในช่วงที่ 2-3 วันผ่านมา ได้มีการตรวจเพิ่มเติม คือลองตรวจรถที่ตรวจควันดำผ่าน ว่ายังปล่อย PM2.5 อยู่หรือไม่ พบว่าก็ยังปล่อยอยู่เป็นปริมาณมาก เพราะว่าจริง ๆ แล้วการตรวจควันดำที่ใช้กระดาษกรองไปวัดค่าฝุ่น อาจจะเป็น PM10 เป็นฝุ่น PM ขนาดใหญ่ รถธรรมดาก็ยังปล่อยฝุ่น PM2.5 ออกมาอยู่ ดังนั้นหัวใจของการต่อสู้กับ PM2.5 ตอนนี้คือการลดการใช้รถยนต์ ใช้ขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น รวมทั้งอาจจะต้องใช้รถที่อาจจะมีคุณภาพที่ดีหรือรถยนต์ไฟฟ้าที่ปล่อย PM2.5 น้อยลง ซึ่งเป็นมาตรการที่ต้องหารือร่วมกับหลายภาคส่วน กทม.หน่วยงานเดียวคงไม่สามารถลดจำนวนรถยนต์ในกรุงเทพฯ ได้ ต้องร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพยายามลดการใช้รถยนต์และใช้ขนส่งมวลชนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะลด PM2.5 ในเบื้องต้นได้ ส่วนการเผาชีวมวล ในระยะยาวคงต้องร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ทั้งกระทรวงเกษตรฯ หรือกรมควบคุมมลพิษในการกำกับเรื่องการเผาชีวมวล

นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า มิติสำคัญคือเรื่องของการป้องกันสุขภาพพี่น้องประชาชน ขณะนี้สำนักการศึกษาได้ทำการสำรวจมาแล้วว่าห้องเรียนอนุบาล 2 และอนุบาล 3 ทั้งหมด 1,700 ห้อง ติดตั้งแอร์แล้ว 800 ห้อง ซึ่งสำนักการศึกษาได้จัดสรรงบประมาณสำหรับการซื้อเครื่องฟอกอากาศแล้ว โดยห้องที่มีแอร์ก็สามารถติดตั้งได้เลย เพื่อปกป้องสุขภาพสำหรับนักเรียน ส่วนสำนักอนามัยได้เตรียมพร้อมโดยลงพื้นที่ในเรื่องการให้ข้อมูลชุมชน แจกหน้ากากอนามัย สำนักการแพทย์เตรียมคลินิกปลอดฝุ่นใน 8 โรงพยาบาลเพื่อเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่

สำหรับกิจกรรม “ผู้ว่าฯ สัญจร” ในวันนี้มีนายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตบึงกุ่ม คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการเขตบึงกุ่ม พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เขตบึงกุ่ม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกิจกรรม