วันนี้ (27 พ.ย. 66) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมลงพื้นที่ ตรวจควันดำรถบรรทุกแบบบูรณาการความร่วมมือตาม “แผนป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จากภาคคมนาคมขนส่ง” เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยมี นายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ ณ ท่าเรือกรุงเทพ  แขวงคลองเตย เขตคลองเตย

การลงพื้นที่ในวันนี้ เป็นการดำเนินงานสืบเนื่องจากกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เร่งรัดดำเนินการตาม "แผนป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จากภาคคมนาคมขนส่ง" และบูรณาการร่วมกับกรุงเทพมหานครในการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม กรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานครได้ลงพื้นที่ตรวจควันดำรถบรรทุกเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ณ ท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งเป็นจุดที่มีรถบรรทุกขนส่งสินค้าเข้า - ออกเป็นจำนวนมาก โดยระหว่างเดือนตุลาคม 2565 - กันยายน 2566 มีจำนวนถึง 229,345 คัน ซึ่งส่งผลให้บริเวณเขตท่าเรือกรุงเทพมีการปล่อยควันดำในปริมาณสูง โดยได้มีการแนะนำผู้ขับรถบรรทุกให้ดูแลเครื่องยนต์ไม่ให้มีค่าควันดำเกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ในกรณีตรวจพบค่าควันดำเกินกำหนด (เกินกว่า 30 เปอร์เซ็นต์) จะดำเนินการออกหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาออกคำสั่งให้ไปชี้แจงข้อเท็จจริง และออกคำสั่งห้ามใช้รถ (พ่นห้ามใช้ โดยเจ้าของรถต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่ง เมื่อผ่านการตรวจสภาพจึงสามารถลบข้อความห้ามใช้ออกและนำรถไปใช้งานได้ โดยกระทรวงคมนาคมจะติดตามผลการดำเนินงานในการขับเคลื่อนแผนฯ ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดมลพิษจากฝุ่น PM 2.5 และรายงานผลไปที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรทุกวันที่ 15 และ 30 ของเดือน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อมได้บูรณาการความร่วมมือกับกรมการขนส่งทางบกดำเนินการตรวจควันดำและฝุ่น PM 25 เชิงรุก โดยจัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 ณ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 233 แห่ง ลงพื้นที่ตรวจสอบรถโดยสารประจำทางหมวด 1 ณ อู่รถ ขสมก. ทั้ง 8 เขตการเดินรถ จำนวน 21 แห่ง รวมถึง รถโดยสารประจำทาง ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพจตุจักร, เอกมั้ย, สายใต้) และสถานประกอบการ ได้แก่ แพลนท์ปูน, บริเวณไซต์งานก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรมในเขตกรุงเทพฯ 

ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 เพื่อวางแผนการทำงาน/การทำกิจกรรม หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีปริมาณค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานและมีแนวโน้มเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ลดระยะเวลา หรืองดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบทางสุขภาพ พร้อมรายงานข้อมูลและให้คำแนะนำแก่ประชาชนในการป้องกันตนเองจากฝุ่นละออง PM2.5 ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ เว็บไซต์ www.airbkk.com, www.pr-bangkok.com เฟซบุ๊ก : กรุงเทพมหานคร / กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร / สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร  และแอปพลิเคชัน : AirBKK รวมถึงจอแสดงผลบริเวณสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ จอแสดงผลแบบเคลื่อนที่ และจอแสดงผลอัจฉริยะของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และมีการแจ้งเตือนค่าฝุ่นละออง PM2.5 ในกรุงเทพมหานครบน LINE ALERT