นายชาตรี  วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สำนักสิ่งแวดล้อมได้ร่วมกับสำนักงานเขต บริหารจัดการขยะในงานกาชาดประจำปี 2567 ตามแนวทาง “ไม่เทรวม” และ “กรีนอีเวนต์” โดยได้ขอความร่วมมือประชาชนผู้มาเที่ยวงาน หน่วยงาน ร้านค้า คัดแยกขยะ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำการคัดแยกขยะ ซึ่งได้ตั้งจุดรับและแยกขยะใช้ถังชนิดห่วงถุงใสเพื่อรองรับขยะมูลฝอยจากประชาชน จำนวน 40 จุด กระจายทั่วงาน เพื่อให้ทุกคนสามารถทิ้งขยะลงถังได้ถูกประเภท ประกอบด้วย ขยะรีไซเคิล ขยะอินทรีย์ และขยะทั่วไป 
รวมถึงมีการแยกทิ้งน้ำ น้ำแข็ง และหลอดดูดน้ำ แยกทิ้งตะเกียบ และไม้เสียบลูกชิ้น รวมถึงแยกขวดพลาสติกใสด้วย โดยเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานครจากสำนักงานเขตต่าง ๆ ทั้ง 25 เขต ซึ่งหมุนเวียนกันมาปฏิบัติงานในแต่ละวันจะช่วยกันดูแล จัดเก็บขยะ กวาดทำความสะอาดพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมคืนพื้นที่ให้ประชาชนผู้ใช้สวนลุมพินี และประชาชนผู้มาร่วมงานกาชาดในวันรุ่งขึ้น

โดยขยะที่ได้รับการแยกเรียบร้อยแล้วจะถูกนำไปใช้ประโยชน์และกำจัดอย่างถูกวิธี ได้แก่ ขยะเศษอาหาร รวบรวม ประสานเกษตรกรนำไปเลี้ยงสัตว์ หมักทำปุ๋ยหรือใช้ประโยชน์ ขยะรีไซเคิล นำไปจำหน่ายรายได้ทั้งหมดที่ได้รับกรุงเทพมหานครจะมอบให้กับสภากาชาดไทยเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของสภากาชาดฯ ขยะทั่วไป เก็บรวบรวม ส่งกำจัดอย่างถูกสุขลักษณะ ทั้งนี้ จากการจัดงานวันแรกเมื่อ 11 ธ.ค. 67 จนถึงเมื่อวานนี้ 17 ธ.ค. 67 รวม 7 วัน กรุงเทพมหานครสามารถจัดเก็บขยะได้ทั้งหมด 182 ตัน หรือ 182,008 กิโลกรัม เฉลี่ยวันละ 182 กิโลกรัม แบ่งเป็น ขยะทั่วไป 168,533 กิโลกรัม (92.6%) ขยะรีไซเคิล 1,998.6 กิโลกรัม (1.1%) ขยะเศษอาหาร 11,476.2 กิโลกรัม (6.31%)

รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวด้วยว่า กรุงเทพมหานครขอขอบคุณประชาชน หน่วยงานและร้านค้า ที่ช่วยกันแยกขยะและทิ้งในจุดที่จัดเตรียมไว้ ทำให้สามารถบริหารจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นแนวทางในการบริหารจัดการขยะในงานอีเวนต์ตามแนวทางไม่เทรวมต่อไป โดยระยะเวลาการจัดงานอีก 5 วัน กรุงเทพมหานครต้องขอความร่วมมือประชาชนแยกทิ้งขยะให้ถูกประเภทและทิ้งในจุดที่จัดเตรียมไว้เช่นที่ผ่านมา เพื่อความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยและสิ่งแวดล้อมที่ดี.//