ติวเข้มเสริมทักษะกระบวนการพิจารณาคดีปกครอง

วันพุธที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2566
image

ติวเข้มเสริมทักษะกระบวนการพิจารณาคดีปกครอง

(19 ก.ค.66) เวลา 08.30 น. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีปกครอง กรณีออกคำสั่งทางปกครอง ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร โดยมี นายชาตรี วัฒนเขจร รองปลัดกรุงเทพมหานคร นายศุภกฤต บุญขันธ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ นายสุรเดช อำนวยสาร รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่สำนักเทศกิจ และผู้เข้ารับการอบรม ร่วมพิธี ณ ห้องประชุม KSS-801 ชั้น 8 อาคารเกษมศรี สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช

กรุงเทพมหานคร โดยสำนักเทศกิจ จัดโครงการฝึกอบรมการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีปกครอง กรณีออกคำสั่งทางปกครอง ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารขึ้น เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ พัฒนาศักยภาพ และทักษะที่สำคัญตามกระบวนการพิจารณาคดีปกครอง อาทิ การยื่นคำฟ้อง การทำคำให้การ การคัดค้านคำให้การ การทำคำให้การเพิ่มเติม วิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท กระบวนพิจารณา ชั้นการแสวงหาข้อเท็จจริง คำพิพากษา และคำสั่งศาล การอุทธรณ์ การบังคับคดีปกครอง ให้แก่บุคลากรที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นิติกร สังกัดสำนักเทศกิจและสำนักงานเขต เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา สังกัดสำนักงานเขต ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งในการปฏิบัติภารกิจทางปกครอง ในกรณีที่กรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการเขต สำนักงานเขต หรือเจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร ถูกฟ้องคดี เนื่องจากการออกคำสั่งตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร สำหรับโครงการฝึกอบรมดังกล่าว แบ่งออกเป็น 2 รุ่นๆ ละ 3 วัน แบบไป-กลับ รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 19-21 กรกฎาคม 2566 และรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2566 โดยเชิญวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ นายอนวัช บูรพาชน ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านควบคุมอาคารและด้านการขุดดินและถมดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง นายชัยภัทร ทั่งทอง และนายเยี่ยม อรุโณทัยวิวัฒน์ ตุลาการศาลปกครองกลาง มาให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร หลักกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีในศาลปกครอง การจัดทำคำให้การ การแก้คำคัดค้าน คำให้การเพิ่มเติม ตลอดจนการจัดทำเอกสารในกระบวนการพิจารณาคดีปกครอง

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การพัฒนาบุคลากรในสายงานของผู้ปฏิบัติภารกิจทางปกครองตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการ เพื่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทันต่อสถานการณ์ รวมถึงสภาพปัญหาที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ผู้ปฏิบัติงานสายงานปกครอง ตามภารกิจในการดำเนินการคดีปกครอง ซึ่งมีวิธีการปฏิบัติงานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะด้าน อาทิ การยื่นคำฟ้อง การทำคำให้การ การไกล่เกลี่ย ข้อพิพาท การอุทธรณ์ การบังคับคดีปกครอง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีองค์ความรู้ ประสบการณ์และทักษะในกระบวนการพิจารณาคดีศาลปกครองที่ใช้ระบบไต่สวน ตลอดจนความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง เป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อกรุงเทพมหานคร ขอให้ผู้เข้ารับการอบรมให้ความสำคัญ และนำความรู้ไปปรับใช้ในการบริหารจัดการงานต่อไป