รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ ย้ำเทศกิจจัดระเบียบผู้ค้าจริงจังและต่อเนื่อง ภาพ After ควรแตกต่างจากภาพ Before ผู้ค้าต้องหายไป
รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ ย้ำเทศกิจจัดระเบียบผู้ค้าจริงจังและต่อเนื่อง ภาพ After ควรแตกต่างจากภาพ Before ผู้ค้าต้องหายไป
(20 ธ.ค. 66) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจสำนักงานเขต ครั้งที่ 6/2566 โดยมี นายศุภกฤต บุญขันธ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายสุรเดช อำนวยสาร รองผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ คณะผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องกรุงธน 3 ชั้น 5 อาคาร 2 สำนักเทศกิจ เขตธนบุรี
“การจัดระเบียบผู้ค้าหาบเร่-แผงลอย เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ในการยกเลิกจุด ยุบรวมจุด ย้ายผู้ค้าเข้าไปในพื้นที่รองรับ ซึ่งอาจจะเป็นตลาดนัดเอกชน หรือ Hawker Center ที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านทางแอปพลิเคชัน Traffy Fondue เกี่ยวกับปัญหาความไม่เป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่ทางเท้า จากการที่ฝ่ายเทศกิจได้รายงานการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ภาพ Before และภาพ After ของการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า ควรจะมีข้อแตกต่างที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบดูแล้วภาพ After ควรจะเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ความไม่เป็นระเบียบตรงนั้นต้องหายไป ผู้ค้าควรจะย้ายเข้าไปทำการค้าในจุดที่เขตกำหนด แต่ยังมีบางเขตที่รายงานเข้ามาด้วยภาพ After และภาพ Before ที่ดูแล้วยังไม่แตกต่างกันเลย นอกจากนี้พื้นที่เขตชานเมืองกับพื้นที่เขตในเมือง ลักษณะทางกายภาพย่อมแตกต่างกัน แต่ภารกิจที่ได้รับมอบหมายในการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า ย่อมเดินไปตามหลักการและทิศทางเดียวกัน จุดทำการค้าในบางเขตมีผู้ค้าแค่ 2-3 ราย ขณะเดียวกันจุดทำการบางเขตมีผู้ค้า 100 กว่าราย ซึ่งจุดที่มีผู้ค้าจำนวนน้อยราย ไม่ควรใช้ระยะเวลายาวนานในการจัดระเบียบพื้นที่เท่ากับจุดที่มีผู้ค้าเป็นจำนวนมาก” รองผู้ว่าฯ จักกพันธุ์ กล่าวในการประชุม
ทั้งนี้ในที่ประชุมได้รายงานการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ทำการค้า 95 จุด ผู้ค้า 5,233 ราย ประกาศเป็นพื้นที่ทำการค้าแล้ว 55 จุด ผู้ค้า 3,440 ราย อยู่ระหว่างพิจารณาประกาศ 31 จุด ผู้ค้า 1,101 ราย เจ้าพนักงานจราจรไม่เห็นชอบ 9 จุด ผู้ค้า 692 ราย ส่วนพื้นที่ทำการค้านอกจุดผ่อนผัน 544 จุด ผู้ค้า 13,210 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 10 ตุลาคม 2566) ที่ผ่านมาได้มีการจัดระเบียบพื้นที่ทำการค้า โดยยกเลิกจุด ยุบรวมจุด และย้ายเข้าพื้นที่เอกชน ซึ่งในปี 2567 จะดำเนินการยกเลิกยุบรวมจุด 110 จุด บริเวณจุดที่มีผู้ค้าจำนวนน้อยราย พร้อมทั้งจัดหาพื้นที่รองรับผู้ค้าในจุดที่เขตกำหนดไว้ หรือจุดที่เขตจัดทำเป็น Hawker Center ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 39 จุด ใน 29 เขต รองรับผู้ค้าได้ 2,826 ราย หยุดดำเนินการ 5 จุด คงเหลือ 34 จุด ซึ่งในปี 2567 จะจัดหาสถานที่เพื่อจัดทำ Hawker Center เพิ่มเติมอีก 28 จุด ใน 26 เขต รองรับผู้ค้าได้ 1,500 ราย
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานครได้มีการพัฒนาพื้นที่บริเวณข้างศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ริมคลองหลอดวัดราชนัดดา เพื่อจัดทำ Hawker Center ตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เน้นจุดที่มีความต้องการของผู้บริโภค อยู่ใกล้กับพื้นที่ทำการค้าเดิม มีจุดล้างทำความสะอาดภาชนะ จุดคัดแยกขยะและกำจัดขยะรวม คำนึงถึงช่วงเวลาทำการค้าและความสะดวกในการเข้าถึงพื้นที่ทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อ สำหรับบริเวณดังกล่าว แบ่งเป็นพื้นที่ร้านค้าขนาด 2 x 2 เมตร ตั้งวางโต๊ะและเก้าอี้ได้ 20 โต๊ะ สามารถรองรับผู้ค้าได้ 60 ร้าน ประกอบด้วย ร้านอาหารที่มีเตาประกอบอาหาร ร้านอาหารพร้อมรับประทาน ร้านอาหารสดและอาหารแห้ง ร้านน้ำและขนม ร้านผักผลไม้ ร้านเบ็ดเตล็ด โดยจัดทำโครงสร้างหลังคา พื้นที่สำหรับล้างอุปกรณ์รวมและอ่างล้างจานชนิด 3 หลุม พร้อมถังดักไขมันบำบัดน้ำเสีย และตู้ควบคุมการจ่ายน้ำแบบหยอดเหรียญ คาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดพื้นที่ทำการค้าเต็มรูปแบบในเดือนเมษายน 2567
จากนั้นได้รายงานผลการดำเนินการโครงการกวดขันรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จอดหรือขับขี่บนทางเท้า ผลการดำเนินการระหว่างวันที่ 9 กรกฎาคม 2561 ถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2566 สำนักงานเขตจับกุม 55,553 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 4,640 ราย ดำเนินคดี 50,911 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 62,257,714 บาท ผลการดำเนินการระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2566 สำนักงานเขตจับกุม 30 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 30 ราย ดำเนินคดี 0 ราย เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 0 บาท สำหรับผลการดำเนินงานการติดตั้งกล้อง CCTV โดยใช้ระบบ BMA AI CAMERA ในการตรวจจับผู้กระทำผิดฝ่าฝืนขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2566 ถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2566 มีผู้ฝ่าฝืนขับขี่บนทางเท้า 50,349 ราย ผู้ฝ่าฝืนจากกล้อง 8 ตัวที่เปิดระบบ 9,373 ราย ส่งหนังสือเชิญมาให้ถ้อยคำ 6,333 ราย อยู่ระหว่างจัดส่ง 3,040 ราย เปรียบเทียบปรับ 283 ราย เป็นเงิน 225,500 บาท