สำนักเทศกิจ ชี้แจงกรณีเพจเฟซบุ๊ก “ข่าวช่องวัน” นำเสนอเกี่ยวกับระบบแจ้งเบาะแสเพื่อรับส่วนแบ่งค่าปรับของประชาชน 4.0

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2565
image

สำนักเทศกิจ ชี้แจงกรณีเพจเฟซบุ๊ก “ข่าวช่องวัน” นำเสนอเกี่ยวกับระบบแจ้งเบาะแสเพื่อรับส่วนแบ่งค่าปรับของประชาชน 4.0

.

ตามที่เพจเฟซบุ๊ก “ข่าวช่องวัน” ได้เสนอข่าวเกี่ยวกับการแจ้งเบาะแสผู้กระทำความผิด เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 สรุปความว่า ผู้แจ้งได้ส่งภาพถ่ายแจ้งเบาะแสพบเห็นรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้า ทางเว็บไซต์แจ้งเบาะแสเพื่อรับส่วนแบ่งค่าปรับของประชาชน 4.0 ด้วยภาพต้นฉบับ ขนาด 40 ล้านพิกเซล ซึ่งเห็นหมายเลขทะเบียนรถชัดเจน แต่เคสดังกล่าวกลับเรื่องถูกจำหน่ายด้วยสาเหตุ "ไม่พบข้อมูลทะเบียนรถ" พร้อมแคปชั่นในโพสต์ว่า “ทะเบียนไม่ชัด?” และขอความเห็นว่ามีใครเคยส่งแจ้งเบาะแสแล้วได้ส่วนแบ่งบ้างไหมครับ ซึ่งมีประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง นั้น (รายละเอียด https://bit.ly/3rJ7af4)

.

สำนักเทศกิจ ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางรับผิดชอบโครงการดังกล่าว ขอเรียนว่า ได้ตรวจสอบจากระบบสืบค้นข้อมูลทะเบียนรถของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งกรุงเทพมหานครและกรมการขนส่งทางบกได้มีบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการสืบค้นข้อมูลทะเบียนรถไว้ จากการตรวจหมายทะเบียนรถตามที่แจ้งคือ "ษ ร ต 757 กรุงเทพมหานคร" ปรากฏผลว่า "ไม่พบข้อมูล"

.

นอกจากนั้น เพื่อความละเอียดรอบคอบ สำนักเทศกิจได้ตรวจสอบข้อมูลเลขทะเบียนรถจักรยานยนต์ที่มีความใกล้เคียงกับเลขทะเบียน ษ ร ต 757 กทม. เช่น เลขทะเบียน “ษ ร ด 757 กทม.” “บ ร ต 757 กทม.” และ “บ ร ด 757 กทม.” ในระบบฐานข้อมูลทะเบียนรถของกรมการขนส่งทางบก ปรากฏผลการตรวจสอบว่า “ไม่พบข้อมูล” เช่นเดียวกัน จึงทำให้ไม่อาจทราบได้ว่ารถที่ปรากฏตามภาพว่าขับขี่บนทางเท้าสาธารณะคันดังกล่าวนั้น เป็นรถของบุคคลใดหรือใครเป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครอง ทำให้สำนักงานเขตบางซื่อซึ่งเป็นหน่วยงานพื้นที่รับผิดชอบต้องจำหน่ายเรื่อง

.

สำนักเทศกิจ ขอขอบพระคุณ ทุก ๆ ท่าน เป็นอย่างสูง ที่ได้แจ้งเบาะแสผู้กระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง ให้กับเจ้าหน้าที่เทศกิจกรุงเทพมหานคร ทราบและเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่อง ก็จะเร่งรัดตรวจสอบดำเนินการเชิญผู้กระทำผิดมาพบ เพื่อดำเนินคดี เปรียบเทียบปรับตามความผิดและข้อหาที่ปรากฏ หากมีการเปรียบเทียบปรับผู้ทำความผิดแล้ว ผู้แจ้งจะได้รับเงินรางวัลนำจับกึ่งหนึ่งทุกราย ซึ่งที่ผ่านมามีผู้แจ้งเบาะแสได้รับเงินส่วนแบ่งค่าปรับไปแล้วจำนวนสองพันเก้าร้อยกว่าราย โดยกรุงเทพมหานครจะปกปิดข้อมูลของผู้แจ้งเบาะแสฯ ไว้เป็นความลับอย่างดีที่สุด