วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2564
“เที่ยวยังไงปลอดภัยจากโควิด”
ด้วยสถานการณ์ โควิด-19 เที่ยวได้แบบ New Normal ชิลไป การ์ดอย่าตก! เพื่อให้การท่องเที่ยวไทยกลับมาคึกคักมากขึ้น ให้เราสามารถออกจากบ้าน และเริ่มวางแผนเที่ยวภายในประเทศได้อย่างอุ่นใจ ปลอดจากโควิดแล้ว
1. เลือกจุดหมายปลายทางโดยยึดความปลอดภัยเป็นหลัก
ใครกำลังจะไปที่ไหน ควรอัพเดทข่าวสารและสถานการณ์ในแต่ละท้องที่ของจุดหมายที่คุณต้องการไป ทั้งก่อน และระหว่างการเดินทาง ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน การเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวนับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าหากคำนึงด้านความปลอดภัยเป็นหลัก โดยจุดหมายปลายทางที่สามารถขับรถไปได้ถือเป็นตัวเลือกที่เราควรให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ เหนือจุดหมายปลายทางยอดนิยมอื่นๆ แต่ไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่มีที่เที่ยวเพราะประเทศไทยเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจและสวยงามมากมายทั่วประเทศ ลองใช้โอกาสนี้หลีกหนีฝูงชนและไปท่องเที่ยวในจุดหมายที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คุณอาจค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษที่อยู่ห่างบ้านคุณเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ได้!
2. ลาหยุดเพิ่มหรือเปลี่ยนบรรยากาศวันทำงานแบบ ‘Workation’
ออกเดินทางก่อนคนอื่นเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่แสนแออัดของวันหยุดยาว ถึงแม้ว่าคุณจะเดินทางด้วยเครื่องบิน คุณก็ควรมาถึงสนามบินเร็วกว่าปกติเพื่อเผื่อเวลาสำหรับมาตรการตรวจเช็กสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น ลองลาหยุดเพิ่มก่อนหน้าหรือหลังวันหยุดยาวซัก 1 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนที่ท่องเที่ยวในวันหยุดยาว
สำหรับคนที่สามารถทำงานจากบ้าน ตอนนี้นับเป็นเวลาที่คุณจะได้รับเอกสิทธิ์พิเศษ และสัมผัสบรรยากาศของการท่องเที่ยวเต็มๆ ด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศวันทำงานแบบ Workation ลองเลือกจองที่พักบนเกาะหรือท่ามกลางธรรมชาติในชนบท และทำงานในที่พักนั้นๆ โดยคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศการทำงานที่สดชื่นและเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติกว่าที่เคย ซึ่งการทำงานภายใต้บรรยากาศใหม่ๆ ที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างความสุขหลังจากต้องทำงานช่วงล็อกดาวน์อยู่บ้านนานนับเดือน!
3. เลือกที่พักให้คุ้มค่าสูงสุด
การเลือกที่พักนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมาก คุณควรพิจารณาเลือกที่พักที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกด้านสูงสุด เช่น เลือกที่พักที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรม ที่พักที่มาพร้อมวิวทิวทัศน์สวยงาม หรือที่พักท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ลองเลือกประเภทที่พักใหม่ๆ ที่มีพื้นที่ให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างอิสระมากขึ้น อาทิ ที่พักแบบพูลวิลล่า บังกะโลริมชายหาด หรือรีสอร์ทบนภูเขา
4. ปลอดภัยไว้ก่อน ปลอดภัยมาก่อนเสมอ
การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนไทยไปแล้ว แต่อย่าลืมพกเจลแอลกอฮอล์ ผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เครื่องวัดอุณหภูมิ และยาประจำตัว ติดตัวไปด้วยทุกการเดินทาง พยายามลดความเสี่ยงการติดเชื้อโดยแวะข้างทางให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่จุดพักยอดนิยม นอกจากนี้ ควรตรวจสอบเวลาทำการของสถานที่ต่างๆ เนื่องจากบางสถานที่มีข้อจำกัดเวลาเปิด-ปิด และจำนวนผู้เข้าใช้ในแต่ละครั้ง
5. เลือกทำกิจกรรมกลางแจ้งนอกอาคาร
การรักษาระยะห่างสามารถทำได้ง่ายกว่าบนพื้นที่กลางแจ้งหรือพื้นที่นอกอาคาร เนื่องด้วยสภาพภูมิอากาศเขตร้อนของประเทศไทยที่มีแดดและลมพัดตลอดทั้งปี ส่งผลให้พื้นที่นอกอาคารมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่ำกว่าพื้นที่ในอาคาร โชคดีที่ประเทศไทยมีกิจกรรมเอาท์ดอร์ให้นักท่องเที่ยวเลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาด การดำน้ำ หรือเพลิดเพลินไปกับการทางเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ รวมถึงกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมอย่างการโหนสลิง การขี่รถ ATV และการปีนผา
แม้ว่าการได้ออกไปท่องเที่ยวอีกครั้งจะเป็นเรื่องน่ายินดีและน่าตื่นเต้น แต่เราต้องมีสติและพิจารณาความเหมาะสมตลอดทริปการท่องเที่ยวอยู่เสมอ รวมถึงฝึกฝนและทบทวนมาตรการความปลอดภัยต่างๆ เพื่อป้องกันตนเองและผู้คนรอบตัว โดยการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยภายในประเทศจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและนำประเทศไทยสู่การฟื้นฟูอย่างยั่งยืน
เราจึงจำเป็นต้องป้องกันตนเองด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชีวิตแบบใหม่ หรือ ที่ถูกเรียกว่า “New Normal” ซึ่งได้เกิดขึ้นกับการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านที่จะต้องมีมาตรการป้องกันและหลีกเลี่ยงโรคระบาดในด้านการท่องเที่ยว วันนี้เราได้เอาเคล็ดลับการท่องเที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรคโควิด 19 มาฝากกัน 1.สวมหน้ากากอนามัย
การสวมใส่หน้ากากอนามัย ควรสวมโดยหันฝั่งสีเข้มออกทางด้านนอก แล้วหันฝั่งสีขาวเข้าหาตัว ในการสวมใส่แต่ละครั้ง ควรล้างมือให้สะอาด หลังจากนั้นไม่ควรใช้มือไปสัมผัสหน้ากากอนามัยฝั่งสีเข้มอีก เพราะอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อนั่นเอง
2.ใช้เจลล้างมือสูตรเข้มข้น
มีผลการวิจัยออกมาแล้วว่า การใช้เจลล้างมือสูตรธรรมดา ในการทำความสะอาดมือ ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคโควิด19ได้ การเลือกซื้อเจลล้างมือ ควรใช้เจลล้างมือสูตรเข้มข้นเกิน 70% สูตรเอทานอล ต้องมีความเข้มข้น 95% จึงจะสามารถฆ่าเชื้อเหล่านั้นได้ แต่ถ้าหากไม่สามารถหาซื้อเจลล้างมือได้ ก็สามารถใช้แอลกอฮอล์ขวดเล็กไว้ใช้แทนได้
3.พยายามไม่จับหน้า หรือขยี้ตาหากไม่ได้ล้างมือ
เชื้อโรคเหล่านี้มักติดต่อกันผ่านทางระบบหายใจ และผ่านทางสารคัดหลั่ง อย่างน้ำลาย น้ำมูก เป็นต้น ซึ่งเมื่อเราได้สัมผัสกับเชื้อเหล่านี้ แล้วนำมือที่สกปรกมาสัมผัสใบหน้า แคะจมูก สัมผัสกับดวงตา ก็จะทำให้เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ จึงควรงดการสัมผัสกับใบหน้าหรือดวงตาหากยังไม่ได้ล้างมือ
4.ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
ไม่ควรใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ ผ้าขนหนู หรือการทานอาหารแบบไม่ใช้ช้อนกลาง เพราะอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากระยะฟักตัวก่อนจะแสดงอาการ สามารถใช้เวลาได้ถึง 2 อาทิตย์ด้วยกัน
5.หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หรือสถานที่ปิด
ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า รถโดยสารประจำทาง ซึ่งสถานที่เหล่านี้ เป็นสถานที่ปิด ซึ่งสามารถเป็นแหล่งเพาะและกระจายเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี จึงควรหลีกเลี่ยงในการเข้าไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ห่างไกลโควิด-19”
หากมีอาการป่วยที่มีลักษณะคล้ายกับอาการของโรคโควิด-19 ควรรีบพบแพทย์ หรือ ติดต่อ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 ทันที
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
https://travel.trueid.net/detail/D83L1b1NKbol
https://travel.trueid.net/detail/JaW3l5wO7o3a
https://www.travelzeed.com/content/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0/
ใครกำลังจะไปที่ไหน ควรอัพเดทข่าวสารและสถานการณ์ในแต่ละท้องที่ของจุดหมายที่คุณต้องการไป ทั้งก่อน และระหว่างการเดินทาง ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน การเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ ด้วยรถยนต์ส่วนตัวนับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าหากคำนึงด้านความปลอดภัยเป็นหลัก โดยจุดหมายปลายทางที่สามารถขับรถไปได้ถือเป็นตัวเลือกที่เราควรให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกๆ เหนือจุดหมายปลายทางยอดนิยมอื่นๆ แต่ไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่มีที่เที่ยวเพราะประเทศไทยเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจและสวยงามมากมายทั่วประเทศ ลองใช้โอกาสนี้หลีกหนีฝูงชนและไปท่องเที่ยวในจุดหมายที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก คุณอาจค้นพบสถานที่ท่องเที่ยวสุดพิเศษที่อยู่ห่างบ้านคุณเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ได้!
2. ลาหยุดเพิ่มหรือเปลี่ยนบรรยากาศวันทำงานแบบ ‘Workation’
ออกเดินทางก่อนคนอื่นเสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่แสนแออัดของวันหยุดยาว ถึงแม้ว่าคุณจะเดินทางด้วยเครื่องบิน คุณก็ควรมาถึงสนามบินเร็วกว่าปกติเพื่อเผื่อเวลาสำหรับมาตรการตรวจเช็กสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น ลองลาหยุดเพิ่มก่อนหน้าหรือหลังวันหยุดยาวซัก 1 วัน เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนที่ท่องเที่ยวในวันหยุดยาว
สำหรับคนที่สามารถทำงานจากบ้าน ตอนนี้นับเป็นเวลาที่คุณจะได้รับเอกสิทธิ์พิเศษ และสัมผัสบรรยากาศของการท่องเที่ยวเต็มๆ ด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศวันทำงานแบบ Workation ลองเลือกจองที่พักบนเกาะหรือท่ามกลางธรรมชาติในชนบท และทำงานในที่พักนั้นๆ โดยคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศการทำงานที่สดชื่นและเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติกว่าที่เคย ซึ่งการทำงานภายใต้บรรยากาศใหม่ๆ ที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างความสุขหลังจากต้องทำงานช่วงล็อกดาวน์อยู่บ้านนานนับเดือน!
3. เลือกที่พักให้คุ้มค่าสูงสุด
การเลือกที่พักนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนจำนวนมาก คุณควรพิจารณาเลือกที่พักที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกด้านสูงสุด เช่น เลือกที่พักที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรม ที่พักที่มาพร้อมวิวทิวทัศน์สวยงาม หรือที่พักท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ลองเลือกประเภทที่พักใหม่ๆ ที่มีพื้นที่ให้คุณได้ผ่อนคลายอย่างอิสระมากขึ้น อาทิ ที่พักแบบพูลวิลล่า บังกะโลริมชายหาด หรือรีสอร์ทบนภูเขา
4. ปลอดภัยไว้ก่อน ปลอดภัยมาก่อนเสมอ
การสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะเป็นเรื่องปกติสำหรับคนไทยไปแล้ว แต่อย่าลืมพกเจลแอลกอฮอล์ ผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เครื่องวัดอุณหภูมิ และยาประจำตัว ติดตัวไปด้วยทุกการเดินทาง พยายามลดความเสี่ยงการติดเชื้อโดยแวะข้างทางให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่จุดพักยอดนิยม นอกจากนี้ ควรตรวจสอบเวลาทำการของสถานที่ต่างๆ เนื่องจากบางสถานที่มีข้อจำกัดเวลาเปิด-ปิด และจำนวนผู้เข้าใช้ในแต่ละครั้ง
5. เลือกทำกิจกรรมกลางแจ้งนอกอาคาร
การรักษาระยะห่างสามารถทำได้ง่ายกว่าบนพื้นที่กลางแจ้งหรือพื้นที่นอกอาคาร เนื่องด้วยสภาพภูมิอากาศเขตร้อนของประเทศไทยที่มีแดดและลมพัดตลอดทั้งปี ส่งผลให้พื้นที่นอกอาคารมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อต่ำกว่าพื้นที่ในอาคาร โชคดีที่ประเทศไทยมีกิจกรรมเอาท์ดอร์ให้นักท่องเที่ยวเลือกทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนริมชายหาด การดำน้ำ หรือเพลิดเพลินไปกับการทางเดินป่าในอุทยานแห่งชาติ รวมถึงกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมอย่างการโหนสลิง การขี่รถ ATV และการปีนผา
แม้ว่าการได้ออกไปท่องเที่ยวอีกครั้งจะเป็นเรื่องน่ายินดีและน่าตื่นเต้น แต่เราต้องมีสติและพิจารณาความเหมาะสมตลอดทริปการท่องเที่ยวอยู่เสมอ รวมถึงฝึกฝนและทบทวนมาตรการความปลอดภัยต่างๆ เพื่อป้องกันตนเองและผู้คนรอบตัว โดยการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยภายในประเทศจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและนำประเทศไทยสู่การฟื้นฟูอย่างยั่งยืน
เราจึงจำเป็นต้องป้องกันตนเองด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชีวิตแบบใหม่ หรือ ที่ถูกเรียกว่า “New Normal” ซึ่งได้เกิดขึ้นกับการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้านที่จะต้องมีมาตรการป้องกันและหลีกเลี่ยงโรคระบาดในด้านการท่องเที่ยว วันนี้เราได้เอาเคล็ดลับการท่องเที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรคโควิด 19 มาฝากกัน 1.สวมหน้ากากอนามัย
การสวมใส่หน้ากากอนามัย ควรสวมโดยหันฝั่งสีเข้มออกทางด้านนอก แล้วหันฝั่งสีขาวเข้าหาตัว ในการสวมใส่แต่ละครั้ง ควรล้างมือให้สะอาด หลังจากนั้นไม่ควรใช้มือไปสัมผัสหน้ากากอนามัยฝั่งสีเข้มอีก เพราะอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อนั่นเอง
2.ใช้เจลล้างมือสูตรเข้มข้น
มีผลการวิจัยออกมาแล้วว่า การใช้เจลล้างมือสูตรธรรมดา ในการทำความสะอาดมือ ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคโควิด19ได้ การเลือกซื้อเจลล้างมือ ควรใช้เจลล้างมือสูตรเข้มข้นเกิน 70% สูตรเอทานอล ต้องมีความเข้มข้น 95% จึงจะสามารถฆ่าเชื้อเหล่านั้นได้ แต่ถ้าหากไม่สามารถหาซื้อเจลล้างมือได้ ก็สามารถใช้แอลกอฮอล์ขวดเล็กไว้ใช้แทนได้
3.พยายามไม่จับหน้า หรือขยี้ตาหากไม่ได้ล้างมือ
เชื้อโรคเหล่านี้มักติดต่อกันผ่านทางระบบหายใจ และผ่านทางสารคัดหลั่ง อย่างน้ำลาย น้ำมูก เป็นต้น ซึ่งเมื่อเราได้สัมผัสกับเชื้อเหล่านี้ แล้วนำมือที่สกปรกมาสัมผัสใบหน้า แคะจมูก สัมผัสกับดวงตา ก็จะทำให้เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ จึงควรงดการสัมผัสกับใบหน้าหรือดวงตาหากยังไม่ได้ล้างมือ
4.ไม่ใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น
ไม่ควรใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นแก้วน้ำ ผ้าขนหนู หรือการทานอาหารแบบไม่ใช้ช้อนกลาง เพราะอาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เนื่องจากระยะฟักตัวก่อนจะแสดงอาการ สามารถใช้เวลาได้ถึง 2 อาทิตย์ด้วยกัน
5.หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หรือสถานที่ปิด
ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า รถโดยสารประจำทาง ซึ่งสถานที่เหล่านี้ เป็นสถานที่ปิด ซึ่งสามารถเป็นแหล่งเพาะและกระจายเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี จึงควรหลีกเลี่ยงในการเข้าไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก ห่างไกลโควิด-19”
หากมีอาการป่วยที่มีลักษณะคล้ายกับอาการของโรคโควิด-19 ควรรีบพบแพทย์ หรือ ติดต่อ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422 ทันที
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
https://travel.trueid.net/detail/D83L1b1NKbol
https://travel.trueid.net/detail/JaW3l5wO7o3a
https://www.travelzeed.com/content/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0/